วารสารกรมปศุสัตว์และบทความต่างๆของกรมปศุสัตว์ เคยกล่าวถึงหญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 มาแล้ว วันนี้จะมาแนะนำหญ้าเนเปียร์ลูกผสม ที่คัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์ในเขตร้อนชื้น นั้นก็คือ “หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ”

          หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมีผลผลิตพืชส่วนที่สัตว์กินได้สูง และคุณภาพดี การวิเคราะห์คุณภาพหญ้าในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่า หญ้าอายุ 60 วัน มีโปรตีน 14.7 เปอร์เซ็นต์ เยื่อใยNDF 52.2เปอร์เซ็นต์ เยื่อใยADF 42.3 เปอร์เซ็นต์ มีวัตถุแห้ง 22.4 เปอร์เซ็นต์ภายใต้ระบบชลประทาน สามารถผลิตหญ้าได้ตลอดทั้งปี เก็บเกี่ยวเลี้ยงสัตว์ได้ปีละ 4 ถึง 6 รอบ มีลักษณะเด่นกว่าหญ้าเนเปียร์สายพันธุ์อื่น คือ มีใบดก ใบอ่อนนุ่ม มีขนที่ขอบและโคนใบน้อย ไม่บาดมือ และไม่ระคายเคือง ลำต้นค่อยข้างนุ่ม อวบ และการย่อยสูงกว่า แตกกอกว้าง พุ่มใหญ่ แตกกอดีมาก จำนวนหน่อต่อกอสูง ลักษณะด้อย คือ ไม่ทนน้ำท่วมขัง ลำต้นหักล้มง่าย และเจริญเติบโตระยะแรกค่อนข้างช้า

          การเตรียมดินสำหรับปลูกหญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ ที่มีความทนร้อน ทนแล้ง ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมร้อนชื้นได้ดี จึงปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด แต่เจริญเติบโตได้ดี ให้ผลผลิตสูงในดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดี ดินมีความเป็นกลางหรือเป็นกรดเล็กน้อย (PH 5.5 – 6.5) เป็นหญ้าที่อายุค้างปี ปลูกครั้งเดียวสามารถใช้ประโยชน์ ได้มากกว่า 5 ปี ดังนั้นควรเตรียมดินให้ดีก่อนปลูก โดยการไถและพรวนดิน 2-3 ครั้ง ให้ดินร่วน ปรับหน้าดิน ให้สม่ำเสมอ ให้สะดวกในการตัดและขนหญ้าออกจากแปลง ใส่ปุ๋ยคอกรองพื้นอัตรา 2 ตันต่อไร่ และปุ๋ยเคมีสูตร 15 – 15 -15 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ ยกร่องเป็นแถวเหมือนการเตรียมดินปลูกมันสำปะหลัง ระยะระหว่างแถว 100 – 120 เซนติเมตร วางระบบน้ำหยด หรือระบบให้น้ำแบบปล่อยท่วมร่องก่อนการปลูก

          การปลูกหญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ขยายพันธุ์โดยใช้ต้นกล้าปักชำติดรากหรือต้นพันธุ์ โดยตัดต้นหญ้าอายุประมาณ 3 เดือน เป็นท่อนสั้น ๆ แต่ละท่อนมี 2 ข้อ พื้นที่ 1 ไร่ ใช้ท่อนพันธุ์ประมาณ 1,600 ท่อน การปลูกให้ปลูกเป็นแถวบนหลังร่องหรือข้าง ๆ ร่องด้านใดด้านหนึ่ง วิธีปลูกทำได้ 2 วิธี คือ วิธีเสียบท่อนพันธุ์ในแนวเฉียง 45 องศา หรือเสียบตั้งตรงโดยให้ท่อนพันธุ์จมดินทั้ง 2 ข้อ และการขุดร่องวางท่อนพันธุ์ในแนวราบ แล้วกลบดินลึกประมาณ 1 นิ้ว ทั้งสองวิธีได้ผลการงอกใกล้เคียงกันหลังปลูกต้องให้น้ำจนชุ่มทันที และให้น้ำอย่างสม่ำเสมอในช่วง 1 เดือนแรก

          หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ จะงอกพ้นดินหลังจากการปลูกประมาณ 1 สัปดาห์ ระยะนี้พืชต้องได้น้ำอย่างสม่ำเสมอโดยให้น้ำจนชุ่มสัปดาห์ละครั้ง หรือปล่อยน้ำท่วมร่องทุก 7-10 วัน เมื่อหญ้าอายุ 1 เดือน ให้กำจัดวัชพืชและพรวนดินระหว่างร่องให้ร่วน แล้วใส่ปุ่ยยูเรียเร่งการเจริญเติบโตอัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ หรือใส่ปุ่ยคอก หรือน้ำหมักปุ๋ยชีวภาพ เมื่อต้นหญ้าเจริญเติบโตถึงช่วงเวาที่ต้องเก็บเกี่ยว การเก็บเกี่ยวหญ้าครั้งแรก ควรเก็บเกี่ยวหลังจากปลูกไม่น้อยกว่า 60 วัน เพื่อให้ต้นหญ้าแข็งแรง ไม่เสียหายระหว่างการตัด จากนั้นสามารถตัดไปหย้าไปเลี้ยงสัตว์ได้ทุก ๆ 45 – 60 วัน หลังการตัดหญ้าแต่ละครั้งให้กำจัดวัชพืชและใส่ปุ๋ยยูเรียปรับปรุงดินอัตรา 10 – 20 กิโลกรัมต่อไร่ และให้น้ำทันที สามารถเก็บเกี่ยวหญ้าได้ปีละ 4 – 6 รอบ มีผลผลิตหญ้าสดเฉลี่ย 10 -15 ตันต่อรอบการตัด ดังนั้นในรอบ 1 ปี จึงผลิตหญ้าสดได้ประมาณไร่ละ 40 – 60 ตัน ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน การให้น้ำ ใส่ปุ๋ย ละระยะการตัดที่เหมาะสม

         "หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ" เป็นทางเลือกหนึ่งในการปลูกหญ้าอาหารสัตว์ ทั้งนี้ หากต้องการปลูกหญ้าอาหารสัตว์ ควรศึกษาความเหมาะสมของสภาพผิวดิน สภาพแวดล้อม และภูมิประเทศให้ดี เพื่อไม่ให้การลงทุนศูนย์เปล่า

 

ข้อมูล : ดร.ธำรงศักดิ์ พลบำรุง/เครือข่ายท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟประเทศไทย

เรียบเรียงโดย : นางสาวสลิลรัตน์ ชูโชติ นักวิชาการเผยแพร่ปฏิบัติการ