×

คำเตือน

JFolder: :files: พาทที่ระบุไว้ ไม่มีโฟลเดอร์ พาท: [ROOT]/images/news_dld/2563/2563_02_03/
×

แจ้งให้ทราบ

There was a problem rendering your image gallery. Please make sure that the folder you are using in the Simple Image Gallery plugin tags exists and contains valid image files. The plugin could not locate the folder: images/news_dld/2563/2563_02_03/

2563 02 03 003
     วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 9.30 น.
     นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานการประชุมแผนการรับมือเกี่ยวกับโรคที่มีค้างคาวเป็นพาหะในปศุสัตว์ พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการกองสารวัตรและกักกัน เจ้าหน้าที่จากสำนัก ควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และด่านกักกันสัตว์สุวรรณภูมิ
     สืบเนื่องจากมีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เชื้อนี้อาจมีค้างคาวเป็นแหล่งรังโรค มีลักษณะทางพันธุกรรมที่คล้ายคลึงกับเชื้อไวรัสโคโรนาที่พบในค้างคาว 96 % ซึ่ง สถานการณ์ปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มมากขึ้น และพบการติดต่อจากคนสู่คนในประเทศไทย 1 ราย ประเทศไทยมีการเตรียมความพร้อมและดำเนินการในการป้องกัน ควบคุมและแก้ไขสถานการณ์โรคติดต่ออุบัติใหม่ให้มีประสิทธิภาพ จึงได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 23/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ลงวันที่ 28 มกราคม 2563 มีรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน และอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นกรรมการและเลขานุการร่วมในคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ นั้น
     กรมปศุสัตว์ได้มีการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคปอดอักเสบจาก เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ดังนี้
     1. ดำเนินการเฝ้าระวังโรคที่เกิดจากค้างคาวโดยเริ่มตั้งแต่มีการระบาดของโรคไข้สมองอักเสบนิปาห์ในประเทศมาเลเซียในปี 2541 โดยทำการเก็บตัวอย่างสุกร อย่างต่อเนื่องทุกปี เน้นในพื้นที่เสี่ยง ไม่พบผลบวกนิปาห์ไวรัส และไม่พบเชื้อไวรัส MERS
     2. กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินโครงการวิจัยในค้างคาว คน และปศุสัตว์ ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก USAID/FAO โดยดำ เนินการ ตั้งแต่ปี 2558 –2562 ทำการสำรวจหาหลักฐานการติดเชื้อไวรัสที่มีค้างคาวเป็นพาหะ ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และราชบุรี โดยเก็บตัวอย่างซีรัม, Nasal swab, Rectal swab, และ Urine swab ในสุกร 2,067 ตัว โค 200 ตัว และสัตว์เลี้ยง (สุนัขและแมว) 238 ตัว ส่งตรวจ PCR ที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ผลการตรวจวิเคราะห์พบไวรัสเดิมที่อยู่ในสัตว์นั้นอยู่แล้ว ไม่ได้พบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในตัวอย่างดังกล่าว
     3. กรมปศุสัตว์ได้พัฒนาระบบสารสนเทศแอปพลิเคชันบนมือถือ อี สมาร์ทพลัส (E-SmartPlus) เพื่อเฝ้าระวังโรคและสามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงของฟาร์มต่อโรคที่มีค้างคาวเป็นแหล่งพาหะที่สำคัญ
     4. การศึกษาทางระบาดวิทยาและพัฒนานวัตกรรม ในการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงโรค ศึกษาความรู้และทัศนคติของเกษตรกร และศึกษารูปแบบการระบาดและความรุนแรงของโรค
     ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้มีการเฝ้าระวังโรคที่มีค้างคาวเป็นพาหะในปศุสัตว์อย่างต่อเนื่อง ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคที่มีค้างคาวเป็นพาหะ ให้คำแนะนำแก่เกษตรกรให้มีการปรับปรุงฟาร์ม พัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่าง และจัดทำแผนการเตรียมความพร้อมรับมือโรคที่มีค้างคาวเป็นพาหะในปศุสัตว์ เพิ่มเข้าไปกับแผนรับมือโรคไข้สมองอักเสบนิปาห์ที่มีอยู่เดิม เพื่อร่วมเฝ้าระวังและป้องกันโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติต่อไป
     ณ ห้องประชุม 1 ตึกอำนวยการ กรมปศุสัตว์

 

{gallery}news_dld/2563/2563_02_03/{/gallery}

ภาพ ฉัตรชัย นวลปลอด , รณภพ จงจิตร เผยแพร่ฯ สลก.

ข่าว กรมปศุสัตว์