วันที่ 24 ธันวาคม 2563 เวลา 10.30 น.
พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิด "ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจต่อผู้ปฎิบัติงาน ร่วมป้องกันโรค ASF ในสุกรที่ยังคงต้องปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งต่อเนื่อง" พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ทั้ง 4 ท่าน น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ เกษตรกร สมาคมและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสุกร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) เป็นโรคที่ก่อให้เกิดความเสียหายและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตสุกร เป็นโรคไม่ติดต่อสู่คน เริ่มต้นระบาดในสาธารณรัฐประชาชนจีน 3 สิงหาคม 2561 กรมปศุสัตว์ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินการร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน สมาคม มหาวิทยาลัย นักวิชาการอิสระ หน่วยงานและองค์การสากล ได้จัดทำมาตรการและ Clinical Practice Guideline (แผนเตรียมความพร้อมในการเผชิญโรค ASF) มีการผลักดันเสนอให้เป็นวาระแห่งชาติ จนครม.ได้มีมติยกระดับเป็นวาระแห่งชาติในวันที่ 9 เมษายน 2562 ซึ่งเป็นภารกิจร่วมกันทุกหน่วยงานของรัฐ รวมกับสมาคมและผู้ประกอบการในการดำเนินการตามหลักการและมาตรการที่กำหนด
นอกจากนี้ ได้ร่วมกับสมาคมและผู้ประกอบการในการสร้างศูนย์ทำความสะอาดเและฆ่าเชื้อสินค้าปศุสัตว์ตามแนวชายแดนพื้นที่เสี่ยง จำนวน 7 แห่ง หนองคาย สระแก้ว มุกดาหาร นครพนม เชียงราย ราชบุรี (2 แห่ง) มีการปรับปรุงระบบขนถ่ายสุกร จากเวียดนาม กัมพูชา สปป.ลาว โดยเพิ่มระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในการสร้างแท่นทอยหมูใช้ในการขนส่งจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการขนส่ง และรวมสนับสนุนเงินให้เกษตรกรรายย่อยเป็นค่าชดเชยสำหรับการพักเลี้ยงสุกร
ส่งผลใน ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยยังคงปลอดจาก ASF ความสำเร็จดังกล่าวนี้ เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ผนึกกำลังอย่างเหนียวแน่น จนสามารถป้องกันความเสียหายไม่ให้เกิดกับเกษตรกรและอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมู ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท ที่สำคัญยังช่วยสร้างโอกาสในการส่งออกเฉพาะปี 2563 นี้ ไทยส่งออกสุกรมีชีวิตจำนวนมากกว่า 2.2 ล้านตัว รวมถึงเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์สุกร มีปริมาณมากกว่า 54,000 ตัน มีมูลค่าทะลุ 22,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 300% จากปีที่ผ่านๆ มา และล่าสุดครม. อนุมัติงบฯ กลางของสำนักนายกรัฐมนตรี วงเงิน 1,111 ล้านบาท ให้กับกรมปศุสัตว์ เพื่อใช้ป้องกัน ASF ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (พิกบอร์ด) ถือเป็นการยกระดับการป้องกันที่เข้มงวดขึ้น และยังเป็นแรงหนุนสำคัญในการสร้างปราการป้องโรคไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเข้าไทยได้ต่อไป
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันโรคอย่างสำเร็จคือการทำงานร่วมกันทุกหน่วยงานในประเทศ ซึ่งต้องจับมือเฝ้าระวังกันต่อไป และขอบคุณและเป็นกำลังใจต่อผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน
ณ โรงแรมสุโกศล กรุงเทพ
{gallery}news_dld/2563/2563_12_24/{/gallery}
ภาพ กิตติพรรณ จินดามัง / ข่าว ทีมงานรองอธิบดี / กลุ่มเผยแพร่ / สลก