นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์  นายวิวัฒน์ ไชยชะอุ่ม  ผอ.กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์  ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ จังหวัดสุพรรณบุรี  ชัยนาท  อ่างทอง กาญจนบุรี และนครปฐม  เพื่อตรวจราชการ  มอบสารกำจัดแมลงและเวชภัณฑ์สัตว์ รณรงค์ ควบคุม ป้องกันโรค รวมทั้งกำกับดูแลการฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือที่ได้รับผลกระทบ   ประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้แก่เกษตรกร  และได้เปิดเผยถึงการดำเนินงาน 5 มาตรการ  รวมทั้งมาตรการเยียวยากรณีสัตว์ตายหรือป่วยตายตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด  ในระหว่างวันที่  18 – 20  มิถุนายน  2564 

                        นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อรณรงค์ป้องกัน ควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน ในหลายพื้นที่ที่มีการระบาด  กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ควบคุม  ป้องกันและกำจัดโรคลัมปี สกิน ทั่วประเทศ ทั้งได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด

                        นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์  โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของวัคซีน  LSDV  ป้องกันโรคลัมปี สกิน   กรมปศุสัตว์ได้กระจายวัคซีนลงพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก   ทั้งยังได้มีการวางแผนในการฉีดวัคซีนให้เกิดประสิทธิภาพ  เป็นไปตามแผนการป้องกันการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น  เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุด  ซึ่งการนี้กรมปศุสัตว์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการแก้ไขและควบคุมการระบาดใน  5 มาตรการคือ  1. ควบคุมการเคลื่อนย้ายโค-กระบือเพื่อลดการแพร่กระจายของโรค  และปฏิบัติตามแนวทางการเคลื่อนย้ายอย่างเคร่งครัด  โดยกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการปิดด่านตามแนวชายแดนพร้อมตรวจตราการลักลอบเคลื่อนย้ายอย่างเข้มงวด   2. เฝ้าระวังการเกิดโรคอย่างใกล้ชิดเน้นการรู้โรคให้เร็ว  ควบคุมได้ทัน  โรคสงบได้อย่างรวดเร็ว   3. ป้องกันและควบคุมแมลงพาหะนำโรค  ให้เกษตรกรป้องกันโดยใช้สารกำจัดแมลงทั้งบนตัวสัตว์  และบริเวณโดยรอบฟาร์ม  ทั้งในพื้นที่ระบาดและพื้นที่เสี่ยง  ลงพื้นที่พ่นยาฆ่าแมลง  และแจกยาฆ่าแมลง  รวมถึงให้คำแนะนำการป้องกัน  4. รักษาสัตว์ป่วยตามอาการเนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสไม่มียาที่ใช้รักษาโดยตรง  ซึ่งจำเป็นต้องรักษาตามอาการ  โดยแบ่งการรักษาเป็น 4 ระยะ   ระยะที่ 1 สัตว์ป่วยแสดงอาการมีไข้ให้ดำเนินการให้ยาลดไข้  ระยะที่ 2 เริ่มแสดงอาการตุ่มบนผิวหนังให้ยาลดการอักเสบ  ระยะที่ 3  ตุ่มบนผิวหนังมีการแตก  หลุดลอกให้ยารักษาแผลที่ผิวหนังร่วมกับยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน  ระยะที่ 4 แผลที่ผิวหนังตกสะเก็ดใช้ยารักษาแผลภายนอกจนกว่าจะหายดีและ 5. การใช้วัคซีนควบคุมโรค 

                        ส่วนมาตรการที่กรมปศุสัตว์เตรียมการเยียวยาเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากโรคลัมปี สกิน  ในกรณีที่เป็นการชดเชยกรณีสัตว์ตายหรือป่วยตายนั้น  จะดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562  โดยมีขั้นตอน คือ  1.รวบรวมข้อมูลความเสียหาย  2.รวบรวมข้อมูลเสนอคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ปศุสัตว์อำเภอ)  3. รวมรวมข้อมูลเสนอคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ปศุสัตว์จังหวัด) และ 4. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ ปศุสัตว์จังหวัดหรือกรมปศุสัตว์

                        ทั้งนี้ จะชดเชยตามจริงแต่ไม่เกินรายละ  2  ตัว  เป็นเงินสดผ่านบัญชีเงินฝากของเกษตรกรตามหลักเกณฑ์  คือ  กรณีโค - กระบือ อายุ  6  เดือน ชดเชย โค  6,000 บาท/ตัว  กระบือ  8,000 บาท/ตัว กรณีโค - กระบือ อายุ  6 เดือน -  1 ปี   โค  12,000 บาท/ตัว  กระบือ  14,000 บาท/ตัว  กรณีโค - กระบือ อายุ 1 ปี –  2 ปี  โค  16,000 บาท/ตัว  กระบือ  18,000 บาท/ตัว  และกรณีโค – กระบือ  อายุ  2  ปี  โค  20,000 บาท/ตัว  กระบือ   22,000  บาท/ตัว  หากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคลัมปี สกิน และมีความประสงค์จะขอรับการเยียวยา  ติดต่อสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ใกล้บ้าน หรือศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ทางโทรศัพท์  0 – 2653 – 4444  ต่อ  3315  และ E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

                                                                                    *********************************************

ข้อมูล :  กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์  กรมปศุสัตว์

ข่าว : พิจารณา  สามนจิตติ  กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  สลก.