วันที่ 19 มีนาคม 2568 อธิบดี​กรมปศุสัตว์เผย​ สั่งชุดเฉพาะกิจของกรมปศุสัตว์​ ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น บุกตรวจสอบ​ร้านขายอาหารสัตว์ต้องสงสัย 3 แห่งในจังหวัดขอนแก่นที่ขาย​ยาสัตว์​เถื่อน​ทั้งทางหน้า​ร้าน​และ​ผ่านแอปพลิเคชัน​ LINE พบยาสัตว์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนหลายรายการ​ ร้าน​จำหน่าย​ทั้ง​ 3 แห่งมีเจ้าของ​คนเดียว​กัน​ รับสารภาพ​ซื้อ​มาจาก​จากแหล่งผลิตในจังหวัดนครปฐม​ ส่งตำรวจ​ดำเนินคดี​ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พร้อม​ยึดยาเถื่อน​ทั้ง​หมดเป็นของกลาง​ สั่งขยาย​ผล​ สาวถึง​ต้นตอแหล่งผลิต

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าว​ว่า​ สั่งการ​ให้​เจ้าหน้าที่​ชุด​เฉพาะกิจ​ของ​กรม​ปศุสัตว์ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ​เข้า​ตรวจสอบ​ร้านขายอาหาร​สัตว์​ต้องสงสัย​ในจังหวัดขอน​แก่​น​ ตามที่​ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่าน Application DLD 4.0 ว่า​มีการประกอบกิจการขายยาสัตว์ไม่ขึ้นทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

ทั้งนี้​สารวัตรปศุสัตว์ไซเบอร์ กองสารวัตรและกักกัน กองควบคุมอาหารและยาสัตว์ ด่านกักกันสัตว์ขอนแก่น ปศุสัตว์จังหวัดขอนแก่น ปศุสัตว์เขต 4 ได้ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นวางแผนล่อซื้อผลิตภัณฑ์ยาสัตว์​จากร้านค้าออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน​ LINE โดยผลการตรวจสอบพบว่า ยาที่ถูกส่งมาจากอำเภอเมืองขอนแก่น​ จังหวัดขอนแก่น​ โดยพบ​ว่า​ ยาดังกล่าว​ ไม่มีการขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายยาสัตว์

จากการสืบสวนต่อเนื่องจากเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าของร้านทำให้​พบข้อมูลเพิ่มเติม​ว่า​ ร้านขายอาหารสัตว์นี้​มีความเชื่อมโยงกันถึง 3 แห่ง ในอำเภอเมืองขอนแก่น​ จังหวัด​ขอนแก่นซึ่งทั้งหมดดำเนินกิจการภายใต้การดูแลของเจ้าของร้านคนเดียวกัน โดยทำเป็นธุรกิจครอบครัว

คณะเจ้าหน้าที่​จึงร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบ​ พบว่า มีการวางขายยาสัตว์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอยู่จริงหลายรายการ เช่น ยากำจัดเห็บหมัด ยาพ่นกำจัดเห็บหมัด ยาคุมกำเนิด และยาฆ่าเชื้อ ซึ่งทั้งหมดไม่ได้มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจำหน่าย เจ้าของร้านทั้ง 3 แห่งยอมรับสารภาพว่า ซื้อยาสัตว์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจากแหล่งผลิตในจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่กรมปศุสัตว์และตำรวจสอบสวนกลางเคยตรวจยึดและดำเนินคดีไปแล้วเมื่อปลายปี 2567 โดยจะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อยอมรับสารภาพในข้อกล่าวหาทั้งหมดและเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป

เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดยาสัตว์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจำนวน 50 รายการ มูลค่ารวมกว่าแสนบาท และส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรย่อยพระลับและ สภ.​ เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.​2510 โดยมีโทษตามมาตรา 122 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำ
ทั้งปรับ และหากฝ่าฝืนมาตรา 12 ของกฎหมายก็อาจได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท

นอกจากนี้​ยังสั่งการ​ให้​ชุดเฉพาะกิจของกรมปศุสัตว์ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบ​ขยาย​ผล​ย้อนกลับ​มายังแหล่งผลิต​ยาสัตว์​เถื่อน​ในจังหวัดนครปฐม​ที่​กรมปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตามพรบ.ยาฯและตำรวจสอบสวนกลางเคยดำเนินการตรวจยึดและดำเนินคดีไปแล้วเมื่อ​ปลายปีที่ผ่านมา​ด้วย​ หากพบการกระทำ​ผิด​ ให้​ดำเนินการ​ตามกฎหมาย​อย่างเด็ดขาด

อธิบดี​กรม​ปศุสัตว์​เน้นย้ำว่า​ กรมปศุสัตว์​จะเฝ้าระวังและติดตามสถานที่จำหน่ายอาหาร​สัตว์​เลี้ยง สถานพยาบาลสัตว์ ห้องเย็นที่แช่แข็งเนื้อและผลิตภัณฑ์สัตว์ อย่างต่อเนื่อง ​ซึ่ง​ผู้​ประกอบการ​ต้องขออนุญาต​และดำเนินการกิจการอย่าง​ถูกต้อง​ โดยจะส่งเจ้าหน้าที่​ออกตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ​ รวมทั้ง​ให้​สารวัตร​ปศุสัตว์​ไซเบอ​ร์สืบหาข้อมูล​การโฆษณา​จำหน่าย​ผ่าน​ช่องทาง​ออนไลน์​ หากไม่ปฏิบัติตาม​กฎหมาย​ จะดำเนินคดี​อย่างเด็ดขาด

หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิด ขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือมีข้อเสนอแนะสามารถแจ้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซต์กรมปศุสัตว์ www.dld.go.th และทางแอพพลิเคชั่น DLD 4.0 ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จาก app store และ google play store ทั้งในระบบ iOS และ android./

**********************************************

ข้อมูล : กองสารวัตรและกักกัน กองควบคุมอาหารและยาสัตว์ กรมปศุสัตว์

เรียบเรียงและเผยแพร่ข่าวโดย สลิลรัตน์ ชูโชติ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม