นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board) ครั้งที่ 1/2561 เพื่อการแก้ไขปัญหาราคาสุกรตกต่ำ ซึ่งมีนายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เห็นชอบให้ดำเนินการ ดังนี้ 1) นำลูกสุกรไปผลิตเป็นหมูหัน จำนวน 100,000 ตัว 2) เพิ่มการปลดระวางแม่พันธุ์สุกร จำนวน 100,000 ตัว (ปลดระวางแม่พันธุ์สุกรในระบบปกติ 300,000 ตัว) และ 3) นำสุกรขุนมาชำแหละและเก็บเข้าห้องเย็น จำนวน 100,000 ตัว และที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์เร่งชี้แจงทำความเข้าใจถึงความเป็นจำเป็นที่จะต้องให้ผู้ประกอบการดำเนินการตามมาตรการ และขอให้ผู้เลี้ยงสุกรเข้าร่วมดำเนินการตามมาตรการ โดยเฉพาะผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบในการดำเนินการนำร่อง โดยการนำลูกสุกรไปผลิตเป็นสุกรหัน ผลการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มโครงการฯ จนถึงปัจจุบัน (19 มีนาคม 2561) มีการนำลูกสุกรไปผลิตเป็นหมูหันจำนวน 10,000 ตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพราคาสุกรขุนมีชีวิตไม่ชัดเจน

กรมปศุสัตว์จึงได้เร่งรัดการดำเนินงานตามโครงการฯให้ครบตามเป้าหมายในระยะเวลาอันจำกัดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อราคาสุกร พร้อมทั้งได้จัดหาช่องทางการจำหน่ายเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย โดยประสานขอความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตสุกรรายใหญ่และบริษัทผู้ค้าปลีก ทั้งนี้ เพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการผลิตสุกรบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อส่วนรวมของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้เป็นสื่อกลางในการประสานความร่วมมือระหว่างเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและธุรกิจที่เกี่ยวข้องในการร่วมจัดตั้งกองทุนวิจัยพัฒนา และประกันความเสี่ยงของธุรกิจสุกรไทย

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาสำคัญที่ทำให้ราคาสุกรตกต่ำ คือการผลิตสุกรมีจำนวนมากเกินความต้องการของตลาดภายในประเทศและการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศลดลง ดังนั้น กรมปศุสัตว์ร่วมกับผู้เกี่ยวข้องจึงได้จัดทำร่างมาตรการการกำกับดูแลความสมดุลด้านปริมาณผลผลิตและราคาจำหน่ายที่เป็นธรรมทั้งแก่เกษตรกรและผู้บริโภค ซึ่งจากมาตรการต่างๆที่ได้ดำเนินการผ่านมา และที่กำลังจะดำเนินการต่อไปนั้น กรมปศุสัตว์เชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

*******************************************

ข่าวและข้อมูล : สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ (19 มีนาคม 2561)