นายสัตวแพทย์สรวิศ  ธานีโต  อธิบดีกรมปศุสัตว์  เปิดเผยถึงความก้าวหน้าในการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ประจำวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ว่า การฉีดวัคซีนให้แก่สุนัข-แมว ซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและกรมปศุสัตว์ ที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ 8.24 ล้านตัว ได้มีการดำเนินการสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 จนถึงวันนี้รวมทั้งสิ้น  7,710,310 ตัว โดยการฉีดวัคซีนรอบจุดเกิดโรคในรัศมี 5 กม. ได้ 100 % แล้ว และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะได้ตามเป้าหมาย

สำหรับการผ่าตัดทำหมันซึ่งมีเป้าหมาย 300,000 ตัว มีการดำเนินการสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 จนถึงวันนี้รวมทั้งสิ้น จำนวน 267,410 ตัว และทำการอบรมอาสาปศุสัตว์ด้านโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งตั้งเป้าไว้ 17,500 คน มีผลงานสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 จนถึงวันนี้ จำนวน 63,050 คน ซึ่งเป็นอาสาจากท้องถิ่นละ 1-2 ราย ทำงานร่วมกับ อสม. นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ขึ้นทะเบียนสุนัขและแมวแล้ว 9.1 ล้านตัว โดยยอดที่สำรวจสุนัข แมวในปีที่ผ่านมามี ประมาณ 10 ล้านตัว

                   ส่วนการประกาศเขตโรคระบาดสัตว์ในช่วงมกราคม – 16 กรกฎาคม 2561 มีการประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราว (ระยะเวลา 30 วัน) จำนวน 53 จังหวัด ปัจจุบันคงเหลือ 28 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง สระแก้ว นครราชสีมา ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด หนองคาย เชียงราย พิจิตร นครสวรรค์   เพชรบุรี สมุทรสงคราม นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และสงขลา

นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์มีเหตุผลความจำเป็นในการประกาศเขตโรคระบาด เพื่อสามารถกำหนดพื้นที่ควบคุมในระยะ 5 กิโลเมตรรอบจุดเกิดโรค ทำให้สามารถระบุชนิดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ต้องควบคุมได้ทุกชนิด ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ตามประกาศเว้นแต่ได้รับอนุญาต และสัตวแพทย์สามารถสั่งดำเนินการกับสัตว์ป่วยหรือสงสัยว่าป่วยหรือสงสัยว่าเป็นพาหะของโรคระบาดได้ทันที หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 063-2256888

*************************************************

ข้อมูล : สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์                ข่าว : น.ส.เพ็ญศิริ ดวงอุดม นักวิชาการเผยแพร่ชำนาญการ