นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยว่า กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการเกี่ยวกับข้อร้องเรียนการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าของกรมปศุสัตว์ โดยกรมปศุสัตว์ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว โดยได้สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลหลักฐานที่ถูกต้องครบถ้วนและเป็นธรรม ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนพยานบุคคลและตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อระหว่างปี 2552-2561 นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ ได้มีหนังสือประสานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อตรวจสอบข้อมูลและเอกสารเกี่ยวกับการออกหนังสือรับรองรุ่นการผลิตยาชีววัตถุสำหรับสัตว์ รวมทั้งการขึ้นทะเบียนตำรับยา เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการรอรายงานผลการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในสิ้นเดือนกันยายน 2561 นี้ ซึ่งหากการตรวจสอบพบการกระทำความผิด กรมปศุสัตว์ จะดำเนินการตามกฎหมายทั้งคดีอาญา คดีแพ่ง และวินัยอย่างเด็ดขาด

         ทั้งนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน ดังนั้นการจัดการวัคซีนอย่างเหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งการวางแผนการนำเข้าวัคซีนให้เพียงพอ กระบวนการรักษาห่วงโซ่ความเย็น รวมทั้งกระบวนการฉีดวัคซีนที่ถูกวิธี การสร้างความเข้าใจที่ตรงกันต่อผู้ปฏิบัติงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคและจากทั้งภาคเอกชน เพื่อให้การปฏิบัติงานบรรลุผลสำเร็จและเกิดการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการสร้างความรับรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนในการดูแลสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า

        ในด้านการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ประจำวันที่ 14 สิงหาคม 2561 การฉีดวัคซีนให้แก่สุนัข-แมว ซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและกรมปศุสัตว์ ที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ 8.24 ล้านตัว ได้มีการดำเนินการสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 จนถึงวันนี้รวมทั้งสิ้น 8,202,096 ตัว และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะได้ตามเป้าหมาย 100 เปอร์เซ็นต์

                                  **********************

ข้อมูล : กองการเจ้าหน้าที่ สำนักกฎหมาย สำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์

เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ : น้องนุช สาสะกุล นักวิชาการเผยแพร่ชำนาญการ กรมปศุสัตว์