นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ มอบหมายให้ นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานในพิธีมอบกรรมสิทธิ์ แม่โคเนื้อเพศเมียแก่เกษตรกร ในโครงการโคบาลบูรพา สระแก้ว รวม 54 ราย พร้อมมอบเสบียงอาหารสัตว์ TMR สำหรับโคเนื้อ โคนม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยมีนายจักรพงษ์ พันธุ์โชติ นายอำเภอวัฒนานครกล่าวต้อนรับ นายประสิทธิ์ ต้อยติ่ง ปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว กล่าวรายงาน พร้อมด้วยผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี ในวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ณ หอประชุมอำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว
             นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์เล็งเห็นความสำคัญในการมอบกรรมสิทธ์แม่โคเนื้อเพศเมีย เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีความตั้งใจ อีกทั้งยังเป็นการสร้างขวัญ กำลังใจให้กับเกษตรกรที่มีความตั้งใจเลี้ยงโคเนื้อ และได้รับประโยชน์จากโครงการโคบาลบูรพา ซึ่งผู้ให้ยืมจะมอบกรรมสิทธิ์แม่โคเนื้อให้แก่ผู้ยืมทันที เมื่อผู้ยืมได้ส่งลูกโคเนื้อเพศเมียที่มีอายุครบ 12 เดือน จำนวน 5 ตัว ให้แก่ผู้ยืม ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยแล้ง และส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกรในพื้นที่ ส.ป.ก. เพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวที่ไม่เหมาะสมไปเลี้ยงปศุสัตว์ สร้างรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน และเพื่อส่งเสริม พัฒนาอุตสาหกรรมโคเนื้อครบวงจรในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยส่งเสริมให้มีการเลี้ยงแม่โคเนื้อผลิตลูก ส่งเสริมการเลี้ยงแพะพันธุ์ดี ปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวที่ไม่เหมาะสมไปปลูกพืชอาหารสัตว์ จัดตั้งโรงฆ่าสัตว์มาตรฐาน GMP ส่งเสริมแปลงใหญ่ และจัดตั้งสหกรณ์ “โคบาลบูรพา”
             รอธ.สุรเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์ร่วมกับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมชลประทาน และจังหวัดสระแก้ว จัดทำโครงการ “โคบาลบูรพา” เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยแล้ง ซึ่งปลูกข้าวในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมไปเป็นเลี้ยงปศุสัตว์ และส่งเสริมอาชีพปศุสัตว์ให้เกษตรกรในพื้นที่ ส.ป.ก. ที่ถูกยึดคืน ซึ่งเป็นพื้นที่มีศักยภาพในการเลี้ยงสัตว์ และพัฒนาให้จังหวัดสระแก้วเป็นเมืองแห่งปศุสัตว์ “โคบาลบูรพา” ที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากมีทำเลที่ตั้งและลักษณะพื้นที่เหมาะสม เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเชื่อมต่อกับประเทศกัมพูชาและเวียดนาม มีศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมโคเนื้ออย่างครบวงจร ซึ่งจะสามารถเพิ่มผลผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภคของประชาชนและนักท่องเที่ยว ในพื้นที่ภาคตะวันออก ลดการนำเข้าเนื้อสัตว์ และการเคลื่อนย้ายสัตว์เข้าเขตปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย และสร้างโอกาสในการผลิตเนื้อโคส่งออกตลาด AEC ในอนาคต

                                                                         **********************

ข้อมูล : กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์

ข่าว :  พิจารณา  สามนจิตติ  กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สลก. กรมปศุสัตว์