วันเสาร์ที่  28  พฤษภาคม  2565  เวลา 11.30 น. นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันอนุรักษ์ควายไทย ประจำปี 2565 เพื่อร่วมรณรงค์ให้ความรู้ และเป็นการระลึกถึง “วันอนุรักษ์ควายไทย”พร้อมกล่าวให้โอวาทและชี้แจงโครงการสานฝันสร้างอาชีพและยกระดับรายได้เกษตรกร และโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์  พืช ประมง และกิจการที่เกี่ยวเนื่อง  ตามนโยบายรัฐบาล จังหวัดกาญจนบุรี  และมอบสัญญายืมกระบือโครงการธนาคารโค-กระบือ  เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริให้ตัวแทนเกษตรกรอำเภอเลาขวัญ จำนวน 30 ราย  โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา  รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี  กล่าวรายงาน  นายวิชัย ปัทมวิภาค นายอำเภอเลาขวัญ  กล่าวต้อนรับ และนายวิวัฒน์ ไชยชะอุ่ม  ผู้อำนวยกองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ เข้าร่วมงาน นายสามารถ ประสิทธิ์ผล  ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้การต้อนรับ  ณ  วัดเขากาญจนาเขต  ตำบลเลาขวัญ  อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี

                        นายประภัตร  โพธสุธน  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า  “ควาย” เป็นสัตว์ที่นำมาใช้ประโยชน์ทางการกสิกรรมมาเป็นเวลานาน  ในอดีตควายใช้ในการไถนาให้ชาวนาที่มีแปลงปลูกข้าวในพื้นที่มีไม่มากนัก  ควายไทยจะเป็นควายที่อยู่ในตระกูลของควายปลัก ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในเอเชียตอนใต้ ที่เรียกว่า “ควายปลัก”  เพราะชอบนอนในปลักที่มีโคลน  การนอนในปลักเป็นส่วนหนึ่งของการระบายความร้อนในสัตว์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของกระบือปลักในประเทศไทยน่าเป็นห่วง  เนื่องมาจากจำนวนของกระบือปลักได้ลดลงอย่างมาก  มีกระบือปลักลดลงจาก  6.4  ล้านตัวในปี พ.ศ. 2525  ลงเหลือเพียง 1.3 ล้านตัว ในปี พ.ศ.2551  สาเหตุหนึ่งที่จำนวนลดลงเนื่องมาจากการทำการเกษตรในปัจจุบันเปลี่ยนไป  เกษตรกรใช้รถไถนาที่เป็นเครื่องจักรเพิ่มมากขึ้น เพราะควายเหล็กทำงานเสร็จเร็วกว่าและสะดวกกว่า  ดังนั้นความสำคัญของกระบือจึงลดลง  โดยแต่ละครอบครัวอาจจะยังเลี้ยงกระบือ  จำนวน 1 – 2 ตัว  โดยมิได้คำนึงถึงการขยายพันธุ์ให้ได้กระบือที่ตัวใหญ่สวยงามดังเช่นในอดีต นอกจากนี้ลูกหลานของเกษตรกรก็มีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป  โดยอาจมิได้เป็นเกษตรกรหรือชาวนาที่ปลูกข้าว  แต่มุ่งทำงานในอาชีพอื่นและละเลยความสำคัญของการทำการเกษตรโดยใช้กระบือเป็นแรงงาน  เห็นอย่างนี้แล้วคงต้องมาช่วยกันดูแลควายไทยของเรา  ก่อนที่จะสูญพันธุ์ไป  ให้ได้อยู่ดีกินดี ควายมีความสุข ผู้เลี้ยงมีความสุข และให้ลูกหลานได้เรียนรู้เกี่ยวกับเจ้าทุย ด้วยการเห็นตัวเป็นๆ  มากกว่าแค่รูปถ่ายวันอนุรักษ์ควายไทย เพื่อร่วมกันอนุรักษ์และดูแลควายไทย และส่งเสริมการเลี้ยงควายให้อยู่คู่คนไทยไปอีกแสนนาน

                        ด้าน นายชำนาญ  ชื่นตา  รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า  สืบเนื่องจากการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่  7  มีนาคม  2560  ได้มีมติเห็นชอบ กำหนดให้วันที่ 14 พฤษภาคมของทุกปีเป็น "วันอนุรักษ์ควายไทย"  ซึ่งตรงกับวันที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9  ได้มีพระราชดำรัสถึงหลักการดำเนินโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ เป็นครั้งแรก และเป็นการสร้างความตระหนักรู้  และให้ความสำคัญในการส่งเสริมและอนุรักษ์การเลี้ยงควายไทย  กรมปศุสัตว์จึงได้ขอความร่วมมือให้ปศุสัตว์จังหวัดจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์  หรือจัดเจ้าหน้าที่รณรงค์ให้ความรู้ หรือจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการระลึกถึง  “วันอนุรักษ์ควายไทย” ตามความเหมาะสม ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่  31  พฤษภาคม  2565

                        จังหวัดกาญจนบุรีจึงได้ร่วมกันจัดงาน “วันอนุรักษ์ควายไทย”  ขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้  และให้ความสำคัญในการส่งเสริมและอนุรักษ์การเลี้ยงควายไทย  เนื่องจากควายหรือภาษาทางการเรียกว่า “กระบือ”  ที่รู้จักกันนี้ น้อยคนแล้วที่จะได้เคยเห็นตัวจริง ควายไทยถือเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญกับภาคเกษตรกรรมของไทยมาอย่างช้านาน  คนไทยเทียมควายไถนามาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ทวด  ด้วยความที่เป็นสัตว์ที่มีความอดทน ทนแดด ทนร้อน ทนสภาพอากาศแห้งแล้งได้ ทำให้กลายเป็นเครื่องมือไถนาชั้นดี ก่อนที่จะมีรถไถเกิดขึ้นมา การเดินทางในสมัยก่อนก็ยังใช้ควายเทียมเกวียน เพื่อทุ่นแรงในการเดินทางไกลอีกด้วย แต่ปัจจุบันควายไทยถูกลดความสำคัญลง จนกลายเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงเท่านั้น  นอกจากนี้ทางจังหวัดกาญจนบุรียังให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรเครือข่ายผู้เลี้ยงควายของจังหวัดกาญจนบุรี  ให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการเลี้ยงควาย  สู่อาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน  จึงได้สานต่อนโยบายกรมปศุสัตว์ที่ให้ความสำคัญกับ "วันอนุรักษ์ควายไทย" ในการสร้างการรับรู้คุณค่าควายไทยว่า   “มีประโยชน์แก่เกษตรกรและประชาชนคนไทย”

                                                                              -----------------------------------------------------

ข้อมูล : สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี                                                ข่าว :  น.ส.จิราภรณ์ เกตุบูรณะ  สำนักงานเลขานุการกรม