วันนี้(วันศุกร์ที่ 5 มิ.ย.2563) เวลา 13.00 น. นายสัตวแพทยสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ให้สัมภาษณ์รายการ "สารตั้งต้น" ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ PPTV 36 วันศุกร์ที่ 19 มิ.ย.2563 เวลา 22.30 น. เรื่อง โรคกาฬโรคแอฟริกันในม้า ในประเด็นสถานการณ์ของโรค มาตรการในการควบคุมโรคของกรมปศุสัตว์ และผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกรมปศุสัตว์ ณ ห้องประชุมซุ้มเรือนแก้ว ชั้นล่างตึกอำนวยการ กรมปศุสัตว์ พญาไท
ข่าวเพิ่มเติม... อธิบดีกรมปศุสัตว์ให้สัมภาษณ์สารคดีเชิงข่าว “รายการสารตั้งต้น” ช่อง PPTV HD 36 ในความคืบหน้าการป้องกันและควบคุมโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า ออกอากาศศุกร์ที่ 19 มิ.ย. 63 เวลา 22.30 น. ??
วันที่ 5 มิถุนายน 2563 เวลา 13.00 น.
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ให้สัมภาษณ์สารคดีเชิงข่าว “รายการสารตั้งต้น” ช่อง PPTV HD 36 ในประเด็นสถานการณ์ และความคืบหน้าและผลการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า
เนื่องจากสถานการณ์การเกิดโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (AHS) ในประเทศไทย ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อวงการเลี้ยงม้าในประเทศไทยอย่างมาก โดยเป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่ยังไม่เคยมีรายงานการเกิดโรคในประเทศไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญ และดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์เร่งดำเนินการแก้ไขและควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวให้เร็วที่สุด กรมปศุสัตว์รับแจ้งครั้งแรกวันที่ 25 มีนาคม 2563 และได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคมหาวิทยาลัย สมาคมฯ และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น สามารถควบคุมโรคให้อยู่ในวงพื้นที่จำกัด ไม่มีรายงานม้าตายต่อเนื่องติดต่อกันประมาณ 10 วันแล้ว สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะความร่วมมือจากผู้เลี้ยงม้า ที่ให้ความร่วมมือในการนำม้าเข้ามุ้ง กำจัดแมลงพาหะ และไม่ทำการเคลื่อนย้าย เพื่อจะได้เข้าสู่สถานการณ์ปกติได้โดยเร็ว
กรมปศุสัตว์มีเป้าหมายควบคุมโรคและขอคืนสภาพปลอดโรคจากองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) โดยเร็วที่สุด ได้ทำแผนปฏิบัติการกำจัดโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า เพื่อคืนสภาพปลอดโรคของประเทศไทย ประกอบด้วย 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 คือระยะเผชิญเหตุ (กำลังอยู่ในระยะนี้) ระยะที่ 2 คือการเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดโรคอุบัติซ้ำ และระยะที่ 3 คือการขอคืนสภาพปลอดโรคจากองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) มีแผนเป้าหมายการฉีดวัคซีนในพื้นที่รอบจุดเกิดโรคในรัศมี 50 กิโลเมตร และในพื้นที่เสี่ยงสูงที่วิเคราะห์จากหลักระบาดวิทยา รวมใน 19 จังหวัด เป้าหมายในม้าจำนวน 7,999 ตัว ดำเนินการฉีดวัคซีนแล้วประมาณ 6,641 ตัว (คิดเป็น 83.66%) (ข้อมูลวันที่ 4 มิถุนายน 2563) และได้แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง รวม 6 คณะ ครอบคลุมทั้งด้านนโยบาย วิชาการ การใช้วัคซีน การสอบสวนโรคและการเฝ้าระวัง การลงพื้นที่ภาคสนาม และศึกษาด้านแมลงพาหะ เพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าว
นอกจากนี้ จากความร่วมมือกันทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน สมาคมและผู้เลี้ยงม้า นักวิชาการ และภาคมหาวิทยาลัย ซึ่งในทางปฏิบัติได้ดำเนินการอยู่แล้ว เพื่อให้การดำเนินงานเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนในทิศทางและรูปแบบเดียวกัน มีความเข้าใจที่ตรงกัน จะมีการทำความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน Public Private Partnerships (PPP) อย่างเป็นทางการเป็นลายลักษณ์อักษร ในรูปแบบข้อตกลงร่วมกัน (MOU) โดยมีเป้าหมายหลัก 3 เป้าหมาย คือ 1. การขอคืนสถานะปลอดโรคจาก OIE 2. การกำจัดโรค AHS ให้หมดจากประเทศไทย และ 3. การวางมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรค มีขอบข่ายความร่วมมือในการรายงานแจ้งสถานการณ์โรคให้ OIE การควบคุมโรค (ควบคุมการเคลื่อนย้าย การทำวัคซีน และการเฝ้าระวัง) และการวางนโยบายและมาตรการในการนำเข้า-ส่งออก และการอำนวยความสะดวกและประสานงานร่วมมือกันในด้านต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศไทยปลอดจากโรค AHS และวงการเลี้ยงม้ากลับสู่สถานการณ์ปกติได้โดยเร็วที่สุด
ณ ซุ้มเรือนแก้ว ตึกอำนวยการ กรมปศุสัตว์
{gallery}news_dld/2563/2563_06_05/{/gallery}
ภาพ ฉัตรชัย นวลปลอด / ข่าว เพ็ญศิริ ดวงอุดม เผยแพร่ สลก. / ข่าวเพิ่มเติม... ทีมเลขาอธิบดีกรมปศุสัตว์