12 ก.ค.2562 เวลา 15.00น. นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ลงพื้นที่จังหวัดชัยนาทเพื่อตรวจประเมินความพร้อมของบริษัทพรีเมี่ยม บีฟ จำกัด ที่ยื่นเสนอขอกู้เงินจากโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตและการตลาดโคเนื้อรองรับ FTA พร้อมด้วยรอธ.อำพันธุ์ เวฬุตันติ,ปศุสัตว์เขต1,ผอ.กสส.,
ผอ.สอส.,ปศจ.ชัยนาท,ปศจ.นครสวรรค์,ผู้แทน สกม.,ผู้แทนกผส.,ผู้แทน กผง.,ผู้แทน สพส.,และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการลงพื้นที่ในครั้งนี้
จากสถานการณ์ความต้องการบริโภคโคเนื้อสูงขึ้นทำให้เกษตรกรสนใจที่จะเลี้ยงโคมากข้ึน แต่ยังขาดความรู้และเงินลงทุน เพื่อเป็นการส่งเสริมและ เพิ่มประสิทธิภาพ ในการผลิตสินค้าปศุสัตว์และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้า และช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จากการเปิดเสรีทางการค้า (FTA) เพื่อเป็นการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศในการดำเนินโครงการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคเนื้อให้อยู่คู่กับเกษตรกรไทย
โดยบริษัทพรีเมียม บีฟ จำกัดยื่นเสนอขอกู้เงินจากโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตและการตลาดโคเนื้อ รองรับ FTA ในวงเงิน 157.08 ล้านบาทโดยสร้างความร่วมมือระหว่างเครือข่ายผู้เลี้ยงโคเนื้อ 5 เครือข่าย ภาครัฐและภาคเอกชน ดังนี้
1.เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อล้านนา จ.เชียงราย
2.เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อตากฟ้า จ.นครสวรรค์
3.เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อไทย จ.ราชบุรี
4.วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเครือข่ายพัฒนาโคเนื้อ จ.ตาก
5.บริษัทพรีเมียม บีฟ จำกัด
เงื่อนไขและคุณสมบัติของกลุ่มเกษตรกรที่จะเข้าร่วมขอกู้เงินจากโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตและการตลาดโคเนื้อรองรับ FTAจะต้องมีคุณสมบัติที่เป็นไปตามกองทุน FTA กำหนดไว้เท่านั้น โดยหัวใจความสำคัญของการขอกู้โครงการนี้คือ เกษตรกรต้องเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวโดยตรง
ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตเนื้อโคเกรดพรีเมียม ตอบสนองผู้ที่นิยมบริโภคเนื้อโค เป็นที่ยอมรับในตลาดสากลเพื่อการส่งออกในอนาคตและมีตลาดรองรับ โดยใช้หลักการตลาดนำการผลิต ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อมีอาชีพที่ มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ต่อไป
ลงพื้นที่ ณ จังหวัดชัยนาท
{gallery}news_dld/2562/2562_07_12d/{/gallery}
ภาพ ฉัตรชัย นวลปลอด เผยแพร่ฯ สลก. / ข่าว ทีมงานเลขาอธิบดีกรมปศุสัตว์