24 ก.ย. 62 เวลา 9.30 น.นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์นำคณะผู้บริหารลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน ณโรงเรียนบ้านเปล โรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
โครงการอาหารเสริมนมโรงเรียนเป็นนโยบายของรัฐบาลไทยที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2535 เพื่อแก้ปัญหาการขาดสารอาหารในเด็กวัยเรียน และสนับสนุนอุตสาหกรรมโคนมไทยโดยใช้น้ำนมดิบจากเกษตรกรในประเทศ เข้าสู่โครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียนคิดเป็นร้อยละ 40 ของน้ำนมดิบที่ผลิตได้ทั้งหมดในประเทศไทย นมโรงเรียนทั้งนมยูเอชทีและนมพาสเจอร์ไรซ์ มีเฉพาะรสจืดเท่านั้น ปัจจุบันเด็กระดับชั้นอนุบาล-ป.6 ทุกคนจะได้ดื่มนมโรงเรียนเทอมละ 100 วัน สำหรับวันมาโรงเรียน และอีก 30 วันสำหรับนำกลับไปดื่มที่บ้านในวันปิดเทอม
อาหารเสริมมีบทบาทสำคัญมากต่อการเติบโตของเด็ก นมก็เป็นอาหารเสริมประเภทหนึ่งที่ให้ประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทางด้านสมองและด้านร่างกาย ในสภาพปัจจุบันเป็นการจัดบริการอาหารเสริมประเภทนม ให้แก่นักเรียนทุกคนในโรงเรียน มีโอกาสได้ดื่มนม จึงเป็นการเสริมสร้าง สุขภาพพลานามัยแก่นักเรียนให้แข็งแรง สมบรูณ์ จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีการจัดให้บริการอาหารเสริมประเภทนมให้กับนักเรียน อีกทั้งยังเป็นการฝึกฝนให้นักเรียนรู้จักการรับประทานอาหารเสริมที่มีประโยชน์อีกด้วย
ทั้งนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์แนะนำให้นักเรียนในพื้นที่หันมาบริโภคนมโรงเรียนให้มากๆ นมโรงเรียนที่ทางภาครัฐได้จัดสรรให้นี้มีคุณค่าและคุณภาพสูงกว่านมพาณิชย์ทั่วไปและที่สำคัญหากทางโรงเรียนพบเห็นนมที่ไม่มีคุณภาพหรือได้รับนมไม่ตรงกำหนดขอให้แจ้งปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่ได้ทันทีเพราะเด็กจะเติบโตเป็นบุคคลากรที่มีคุณภาพได้จะต้องได้รับการใส่ใจและดูแลจากหลายด้านๆ เพื่อเป็นการสร้างบุคคลากรของชุมชน สังคมและประเทศชาติ ให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากนมมีประโยชน์ต่อร่างกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรงช่วยในการเพิ่มการเจริญเติบโตของร่างกายและสติปัญญา
ณ โรงเรียนบ้านเปล อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
{gallery}news_dld/2562/2562_09_24c/{/gallery}
ภาพ กิตติพรรณ จินดามัง ข่าว ทีมงานอธิบดี / กลุ่มเผยแพร่ / สลก