วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เวลา 9.30 น.
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานเพื่อควบคุมโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (African Horse Sickness: AHS) ในรูปแบบ GIN Conference พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการสำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ ปศุสัตว์เขต 1-9 ปศุสัตว์จังหวัด ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ ผู้อำนวยการกองสารวัตรและกักกัน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
เนื่องจากโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (African Horse Sickness: AHS) พบการระบาดในหลายพื้นที่ในประเทศไทย โดยพบการระบาดครั้งแรกวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โรคนี้ก่อให้เกิดความเสียหายในม้าและผู้เลี้ยงม้าเป็นจำนวนมาก กรมปศุสัตว์จึงได้ทำแผนปฏิบัติการในการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันและกำจัดโรค AHS และเร่งให้ทุกจังหวัดดำเนินการตามมาตรการเพื่อควบคุมสถานการณ์จำกัดพื้นที่การเกิดโรคอย่างเคร่งครัด "รู้เร็ว สงบโรคเร็ว" สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1. วิเคราะห์สถานการณ์โรค AHS ของแต่ละจังหวัดที่พบการระบาดของโรคใน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดชลบุรี จังหวัดสระแก้ว จังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดสระบุรี มีจังหวัดใกล้เคียงในรัศมี 50 กิโลเมตร จำนวน 10 จังหวัด
2. รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานควบคุมโรค AHS ใน 8 จังหวัด เช่น การติดตั้งมุ้งกันแมลงพาหะ การฉีดวัคซีน การเฝ้าระวังเก็บตัวอย่าง การตั้งจุดตรวจเข้มงวดในการเคลื่อนย้าย การพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ผู้เลี้ยงม้า และการดำเนินงานด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. ปัญหา อุปสรรคและแนวทางแก้ไข จะเร่งดำเนินการแก้ไขและติดตามผลต่อไป
4. ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรค AHS ให้เฝ้าระวังโรค มีการสังเกตอาการทุกวัน วัดอุณหภูมิเช้า-เย็น (วันละ 2 ครั้ง) เร่งกำจัดแมลงพาหะ กางมุงและนำม้าเข้าโรงเรือนหรือคอกที่มีมุ้ง และให้ติดตามสถานการณ์ทำรายงานทุกวัน
ทั้งนี้ เพื่อให้การควบคุม เฝ้าระวังและป้องกันโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (AHS) อยู่ในวงพื้นที่ที่จำกัด "รู้เร็ว สงบโรคเร็ว" บูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน และเน้นย้ำให้ทุกจังหวัดดำเนินการตามแผนปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัดมีประสิทธิภาพและเป็นแนวทางเดียวกัน โดยกรมปศุสัตว์ได้จัดงบประมาณไว้ 10 ล้านบาท สำหรับการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรค การซื้อมุ้งกันแมลงพาหะ และน้ำยาฆ่าแมลง เพื่อใช้สำหรับการดำเนินงานช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป
ณ ห้องประชุมพระพิรุณ ตึกอำนวยการ กรมปศุสัตว์
{gallery}news_dld/2563/2563_05_01a/{/gallery}
ภาพ กิตติพรรณ จินดามัง / ข่าว ทีมงานอธิบดี / กลุ่มเผยแพร่ / สลก