×

คำเตือน

JFolder: :files: พาทที่ระบุไว้ ไม่มีโฟลเดอร์ พาท: [ROOT]/images/news_dld/2563/2563_05_06/
×

แจ้งให้ทราบ

There was a problem rendering your image gallery. Please make sure that the folder you are using in the Simple Image Gallery plugin tags exists and contains valid image files. The plugin could not locate the folder: images/news_dld/2563/2563_05_06/

2563 05 06 023

" รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเพื่อขับเคลื่อนการผลิตอาหารสัตว์โดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเพื่อลดต้นทุนการผลิตและสนับสนุนเกษตรกรเลี้ยงโคขุนตามโครงการเกษตรสร้างชาติ จ.นครราชสีมา "

วันที่ 6 พฤษภาคม 2563 น. นายประภัตร  โพธสุธน  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่พบปะพูดคุยพร้อมตรวจเยี่ยมกิจกรรม ของสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนคนรักการเกษตร บริษัท เอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด และ บริษัท เอี่ยมธงชัยอุตสาหกรรม จำกัด ในการขับเคลื่อนการผลิตอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพโดยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น ได้แก่ หญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 เป็นต้น เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิตในการเลี้ยงโค และร่วมหารือการจัดตั้ง Feed Center สำหรับผลิตอาหารสัตว์ครบส่วน (TMR) ให้บริการแก่เกษตรกรที่ประสบปัญหาพืชอาหารสัตว์ไม่เพียงพอ อันเนื่องมาจากสถานการณ์ภัยแล้ง และสนับสนุนเกษตรกรเลี้ยงโคขุนตามโครงการเกษตรสร้างชาติ โดยมีนายอภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวให้การต้อนรับ ในการนี้ นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ มอบหมายให้นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อมด้วย นายวิวัฒน์ ไชชะอุ่ม ผอ.กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ นายอิทธิพล เผ่าไพศาล ผอ.สำนักพัฒนาอาหารสัตว์  นายพศวีร์ สมใจ ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ณ อ.เสิงสาง และ อำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา

ข้อมูลข่าวเพิ่มเติม

‘รมช.ประภัตร’ หนุนชาวโคราชปลูกพืชอาหารสัตว์ พื้นที่ 5 พันไร่ รอบโรงงานแป้งมัน ส่งขาย Feed Center ดันเป็นแหล่งผลิตอาหาร TMR ใหญ่สุดในไทย

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 63 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตลอดจน นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายอิทธิพล เผ่าไพศาล ผอ.สำนักพัฒนาอาหารสัตว์ นายวิวัฒน์ ไชยชะอุ่ม ผอ.กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ นายพศวีร์ สมใจ ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ประชุมหารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้เกษตรกรในพื้นที่โดยการส่งเสริมการปลูกหญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 จำหน่ายสร้างรายได้ โดยมีผู้นำและผู้แทนเกษตรกรเข้าร่วมรับฟัง ณ วิสาหกิจชุมชนคนรักการเกษตร อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา

นายประภัตร กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรประสบปัญหาภัยพิบัติ น้ำแล้ง ฝนทิ้งช่วง พืชผลทางการเกษตรเสียหาย ตลอดจนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน ทำให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ด่านต่างๆ ปิดชั่วคราว ไม่สามารถส่งออกสินค้าเกษตรได้โดยสะดวก ท่านนายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงพี่น้องเกษตรกรในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ครม.จึงอนุมัติวงเงิน 50,000 ล้านบาท ให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาสนับสนุนการดำเนินโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และกิจการที่เกี่ยวเนื่อง (เกษตรสร้างชาติ) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ธ.ก.ส. ดังกล่าว วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถภาคปศุสัตว์ไทย ฟื้นฟูอาชีพแก่เกษตรกร บรรเทาความเดือดร้อนเสียหายอันเนื่องมาจากภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ และผลกระทบจากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องนำภาคปศุสัตว์มาส่งเสริมให้เกษตรกรได้มีอาชีพใหม่ที่สร้างรายได้ที่มั่นคง ด้วยการปรับเปลี่ยนพื้นที่มาเลี้ยงสัตว์ให้สามารถจำหน่ายทั้งภายในและต่างประเทศ ได้แก่ โคเนื้อ กระบือ แพะ แกะ ไก่พื้นเมือง โดยมีตลาดรองรับ พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดการตลาด ผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ และเพื่อเป็นการสร้างอาชีพทางเลือกใหม่ โดยมีอัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อไม่เกินกลุ่มละ 10 ล้านบาท หรือดอกเบี้ยล้านละ 100 บาท/ปี ระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 62 - 30 พ.ย. 65

นายประภัตร กล่าวเพิ่มเติมว่า จ.นครราชสีมา ถือเป็นจังหวัดที่มีโคเนื้อมากที่สุดในประเทศ จำนวนกว่า 300,000 ตัว ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าความมั่นคงของอาชีพเลี้ยงวัวนั้น มาจากความมั่นคงทางอาหารสัตว์ โดยตลาดภายในประเทศมีการบริโภคโคเนื้อมากถึง 1,200,000 ตัว อีกทั้งตลาดต่างประเทศยังมีความต้องการโคเนื้อจำนวนมาก ซึ่งโครงการนี้นอกจากจะส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงวัวแล้ว ยังส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชอาหารสัตว์สร้างรายได้ ซึ่งพืชอาหารสัตว์ที่ใช้ผลิต คือ หญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 ซึ่งมีศักยภาพให้ผลผลิตและมีคุณค่าทางอาหาร โดยเบื้องต้นสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชอาหารสัตว์ พื้นที่ 5 พันไร่ รอบโรงงานแป้งมันสำปะหลังในพื้นที่ อ.เสิงสาง และ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เพื่อส่งขาย Feed Center ตลอดจนดันให้เป็นแหล่งผลิตอาหาร TMR ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

“ได้หารือร่วมกับหน่วยงานภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยได้สำรวจพื้นที่ที่เหมาะสมในการสร้างโรงงานอาหารสัตว์ให้วัวขุน ซึ่งจะเป็นอาชีพหลักของคนภาคอีสาน เนื่องจากโคราชเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน และมีพื้นที่ปลูกพืชอาหารสัตว์ รวมทั้งมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นบ่อบำบัดน้ำทิ้งของโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางด้านการเกษตรได้ เนื่องจากมีองค์ประกอบที่เป็นแหล่งธาตุอาหาร พืช เช่น N P K และสารประกอบอินทรีย์อื่นๆ จำนวนมาก และผ่านการเจือจางความเข้มข้นโดยการเติมน้ำซึ่งดำเนินการโดยกรมทรัพยากรน้ำ เป็นประโยชน์ต่อการปลูกหญ้าเนเปียร์ ทำให้เพิ่มผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น โดยจะบริหารจัดการในลักษณะ Feed Center กระจายผลผลิตอาหารสัตว์จำหน่ายไปยังกลุ่มเลี้ยงโคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและอีกหลายๆ จังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียง ในราคาถูก ซึ่งจะเริ่มดำเนินการใน 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ปักธงชัย และ อ.เสิงสาง คาดว่าใช้พื้นที่ไม่น้อยกว่า 2-3 หมื่นไร่ โดยใช้แหล่งเงินทุนจาก ธ.ก.ส. ตามโครงการสินเชื่อต่างๆ ” นายประภัตร กล่าว

ด้านนายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ยินดีสนับสนุนด้านวิชาการให้กับเกษตรกร โดยพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีแหล่งความพร้อมด้านอาหาร อาทิ หญ้า และน้ำ โดยเฉพาะโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งปัจจุบันน้ำที่ได้จากโรงงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากเดิมที่เคยเป็นมลพิษ ซึ่งน้ำที่เหลือจากโรงงานสามารถนำมาปลูกหน้าเนเปียร์เพิ่มผลิตได้เป็นอย่างดี โดยปกติการปลูกหญ้าเนเปียร์จะโตเร็ว ให้ผลผลิตต่อไรสูง รอบการตัด 3 รอบ/ปี แต่ถ้าได้น้ำจากโรงงานที่มีสารประกอบอินทรีย์สูงจะมีรอบการตัดถึง 5รอบ/ปี เป็นการเพิ่มรายได้และลดต้นทุนในการเลี้ยงโคขุนควบคู่กันไป

{gallery}news_dld/2563/2563_05_06/{/gallery}

ภาพ/ข่าว ฉัตรชัย นวลปลอด เผยแพร่ฯ สลก.กรมปศุสัตว์ /ข้อมูลข่าวเพิ่มเติม  พนิดา ลาดเหลา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์