×

คำเตือน

JFolder: :files: พาทที่ระบุไว้ ไม่มีโฟลเดอร์ พาท: [ROOT]/images/news_dld/2563/2563_09_16e/
×

แจ้งให้ทราบ

There was a problem rendering your image gallery. Please make sure that the folder you are using in the Simple Image Gallery plugin tags exists and contains valid image files. The plugin could not locate the folder: images/news_dld/2563/2563_09_16e/

2563 09 16 0001
วันที่ 16 กันยายน 2563 เวลา 16.30 น.
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ประชุมหารือผลดำเนินงานมาตรการควบคุมโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (AHS) เร่งขอคืนสภาพปลอดโรค AHS ของประเทศไทยจากองค์การสุขภาพสัตว์โลกโดยเร็ว พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ มร.ฮาราลด์ ลิงค์ นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย รศ.นายสัตวแพทย์ ดร.ปานเทพ รัตนากร พันเอกสมพงษ์ สุขประดิษฐ์ ผู้บัญชาการหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ รองนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย รองเลขาธิการสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย ผู้อำนวยการสำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ ผู้อำนวยการกองความร่วมมือด้านการปศุสัตว์ระหว่างประเทศ ผู้แทนจากสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
สืบเนื่องจากการดำเนินงานตามมาตรการการควบคุม กำจัดและเฝ้าระวังโรค AHS อย่างต่อเนื่อง และการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อกำจัดโรค AHS เพื่อขอคืนสภาพปลอดโรค AHS ของประเทศไทยจากองค์การสุขภาพสัตว์โลก อย่างต่อเนื่องและเข้มงวด ทำให้ ณ ปัจจุบัน ทำให้ประเทศไทยอยู่ในระยะแรกคือระยะเผชิญเหตุ ซึ่งไม่พบรายงานม้าป่วยม้าตายเพิ่มประมาณ 2 เดือนแล้ว กรมปศุสัตว์ร่วมกับภาคีเครือข่ายรวม 17 หน่วยงาน ได้มีการลงนามใน MOU ร่วมกันในวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 เพื่อกำหนดขอบข่ายหน้าที่ความรับผิดชอบที่ชัดเจน โดยผลการดำเนินงาน ดังนี้
1. มีมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายม้า ลา ล่อ และม้าลาย มีการผ่อนปรนในบางพื้นที่ พิจารณาจากปัจจัยและสถานการณ์การเกิดโรค แต่สำหรับม้าลายยังห้ามทำการเคลื่อนย้ายอย่างเข้มงวด
2. การฉีดวัคซีนในพื้นที่เสี่ยงได้ดำเนินการแล้ว 9 พันกว่าตัวจากทั้งหมด 11,000 ตัว
3. การตรวจวิเคราะห์ระดับภูมิคุ้มกันหลังทำวัคซีน พบว่าวัคซีนมีศักยภาพในการป้องกันโรค สามารถกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกันได้ จากการตรวจ ELISA พบว่าหลังทำวัคซีน 30 วัน มีระดับภูมิคุ้มกัน 80% ของฝูง หลังทำวัคซีน 45-60 วัน มีระดับภูมิคุ้มกันได้ 100% ของฝูง จึงเป็นสาเหตุให้มีการกักโรคหลังทำวัคซีน 30 วัน เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโรค โดยในด้านวิชาการควรมีการกระตุ้นภูมิซ้ำที่ 8-11 เดือน โดยให้พิจารณาประเมินถึงความเสี่ยง อุบัติการณ์เกิดโรคและแมลงพาหะ และการทำ sentinel
4. การเจาะเลือดม้าลายโดยสุ่มตรวจตามหลักวิชาการและทางระบาดวิทยาทั่วประเทศไทย โดยมีมาตรการควบคุมห้ามเคลื่อนย้ายม้าลาย การกำจัดแมลงพาหะ และให้นำม้าลายเข้ามุ้ง ส่วนการทำวัคซีนในม้าลาย ยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการ ต้องทำการศึกษาทดลองต่อไป เนื่องจากวัคซีนกำหนดฉีดแค่ในม้าและลา
5. การสุ่มตรวจริ้นแมลงพาหะ พบว่าไม่พบสารพันธุกรรม AHS ในตัวริ้นพาหะ
6. การทำ sentinel ในม้า ลา ล่อ เพื่อเป็นการติดตามและเฝ้าระวังโรค
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นควรให้มีการรายงานองค์การสุขภาพสัตว์โลกเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง มีผู้ประสานงาน focal point ในการติดต่อประสานงานข้อมูล การชี้แจงสื่อสารข้อมูลต่อสาธารณชนให้รับรู้เข้าใจอย่างถูกต้องในทิศทางเดียวกัน มีการติดตามการดำเนินงานกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายให้ปฎิบัติตาม MOU อย่างต่อเนื่อง และจะกำหนดให้มีการประชุมในคณะอนุกรรมการวิชาการฯ เพื่อพิจารณาหาสาเหตุการเกิดโรคและพิจารณาถึงหลักการใช้วัคซีนในม้าลายต่อไป
ณ ห้องประชุม 1 ตึกอำนวยการ กรมปศุสัตว์

{gallery}news_dld/2563/2563_09_16e/{/gallery}

ภาพ ฉัตรชัย นวลปลอด เผยแพร่ฯ สลก. / ข่าว ทีมเลขาอธิบดีกรมปศุสัตว์