พลเอกประยุุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจราชการติดตามสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดชัยภูมิและให้การช่วยเหลือเกษตรกร โดยมี นาย ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดร. ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสัตวแพทย์เอกภพ ทองสวัสดิ์วงศ์ ปศุสัตว์เขต 3 สัตวแพทย์หญิงศรีสมัย โชติวนิช ปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ นายวิวัฒน์ ไชยชะอุ่ม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ ในวันพุธที่ 29 กันยายน 2564 ณ วัดชัยชนะวิหาร (วัดบ้านละหาน) ต. ละหาน อ. จัตุรัส จ.ชัยภูมิ
นายกรัฐมนตรีประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์น้ำ และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ นายกฯ กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล และการเตรียมการแก้ปัญหาอุทกภัย รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือเยียวยากันต่อไป พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีมอบปัจจัยการผลิตด้านการเกษตร อาทิ พันธุ์ผัก พันธุ์ข้าว ปอเทือง หญ้าแห้ง ฯลฯ
นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกรมปศุสัตว์ได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นโดยนำ อาหารสุนัข แมว 417 กิโลกรัม ถุงยังชีพสัตว์ ซึ่งประกอบด้วย อาหารไก่พื้นเมือง สุนัข แมว ยาปฎิชีวนะ แร่ธาตุก้อน วิตามิน ยาถ่ายพยาธิสำหรับโค กระบือ ฯลฯ จำนวน 100 ชุด หญ้าแห้งพระราชทาน 10,000 กิโลกรัม แร่ธาตุก้อน 500 กิโลกรัม อาหารผสม TMR 2,000 กิโลกรัม รวมทั้งมีการเตรียมการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย โดยสำรองเสบียงสัตว์เป็นหญ้าแห้ง 6,498 ตัน ถุงยังชีพสัตว์ 4,220 ถุง ทีมสัตวแพทย์เคลื่อนที่ 119 หน่วย สัตวแพทย์ 357 คน เตรียมการเผชิญเหตุและบรรเทาทุกข์ภาวะฉุกเฉินโดยสนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ ดูแลสุขภาพสัตว์ ช่วยอพยพสัตว์ รวมทั้งการช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลด สำรวจประเมินความเสียหาย ให้การสนับสนุนเสบียงเวชภัณฑ์สัตว์เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูที่ได้รับผลกระทบ
รองอธิบดีดรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักเกณฑ์การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยมีการปรับอัตราการให้ความช่วยเหลือให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 โดยช่วยเหลือกรณีเสียหายสิ้นเชิง (ตาย/สูญหาย) ด้านปศุสัตว์ ได้แก่ โค ตัวละ 13,000 – 35,000 บาท (ไม่เกินรายละ 5 ตัว) กระบือ ตัวละ 15,000 – 39,000 บาท (ไม่เกินรายละ 5 ตัว) สุกร ตัวละ 1,500 – 3,000 บาท (ไม่เกินรายละ 10 ตัว) แพะ/แกะ ตัวละ 1,500 – 3,000 บาท (ไม่เกินรายละ 10 ตัว) ไก่พื้นเมือง/ไก่งวง ตัวละ 30–80 บาท (ไม่เกินรายละ 300 ตัว) ไก่ไข่/เป็ดไข่ ตัวละ 30 – 100 บาท รายละไม่เกิน 1,000 ตัว) ไก่เนื้อ ตัวละ 20 - 50 บาท (ไม่เกินรายละ 1,000 ตัว) เป็ดเนื้อ/เป็นเทศ ตัวละ 30 - 80 บาท (ไม่เกินรายละ 1,000 ตัว) นกกระทา ตัวละ 10 – 30 บาท (ไม่เกินรายละ 1,000 ตัว) นกกระจอกเทศ ตัวละ 2,000 บาท (ไม่เกินรายละ 10 ตัว) และห่าน ตัวละ 100 บาท (ไม่เกินรายละ 300 ตัว)
*********************************************
View the embedded image gallery online at:
https://secretary.dld.go.th/webnew/index.php/th/news-menu/headnews-menu/8152-410-2564#sigFreeIde57611a192
https://secretary.dld.go.th/webnew/index.php/th/news-menu/headnews-menu/8152-410-2564#sigFreeIde57611a192
ข้อมูล : กรมปศุสัตว์ ภาพ กิตติพรรณ จินดามัง ข่าว : พิจารณา สามนจิตติ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม