นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงความก้าวหน้าในการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ประจำวันที่ 17 มีนาคม 2561 ดังนี้ การฉีดวัคซีนให้แก่สุนัข-แมวซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและกรมปศุสัตว์ ที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ 8.24 ล้านตัว เป็นส่วนที่กรมปศุสัตว์ดำเนินการ จำนวน 32,867 ตัว กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดำเนินการ จำนวน 124,569 ตัว มีผลงานสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 – 16 มีนาคม 2561 จำนวน 1,725,163 ตัว ซึ่งขณะนี้ฉีดวัคซีนรอบจุดเกิดโรคในรัศมี 5 กม.ได้ 80-100 % แล้ว และคาดว่าในช่วงรณรงค์ (มีค.-พค.) จะได้ 80 % ของสุนัข-แมวทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 16 มีนาคม 2561)
ในส่วนของกรมปศุสัตว์นั้น มีเป้าหมายที่จะผ่าตัดทำหมันสัตว์ จำนวน 300,000 ตัว ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วจำนวน 9,814 ตัว มีผลงานสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 – 16 มีนาคม 2561 จำนวน 101,888 ตัว และทำการอบรมอาสาปศุสัตว์ด้านโรคพิษสุนัขบ้า จำนวน 2,377 คน จากที่ตั้งเป้าไว้ 17,500 คน มีผลงานสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 – 16 มีนาคม 2561 จำนวน 20,442 คน ซึ่งเป็นอาสาจากท้องถิ่นละ 1-2 ราย ทำงานร่วมกับ อสม. นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ยังขึ้นทะเบียนสุนัขและแมว โดยตั้งเป้าไว้ว่าสุนัขและแมวทุกตัว จำนวน 10 ล้านตัว จะต้องขึ้นทะเบียนทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 451,070 ตัว และอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล การสำรวจสิ้นสุด ณ เดือนกันยายน 2561
ด้านสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในคนที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานมาว่า ในปี 2559 มีผู้เสียชีวิตจำนวน 13 ราย ในปี 2560 มีผู้เสียชีวิต 11 ราย ในปี 2561 คือระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 16 มีนาคม 2561 มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยหรือเสียชีวิต
ส่วนการประกาศเขตโรคระบาดสัตว์ในช่วงมกราคม – 16 มีนาคม 2561 มีการประกาศเขตโรคระบาด โดยยึดตามประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราว (อายุ 30 วัน) ดำเนินการควบคุมโรคเป็นจุดๆ ละ 5 กิโลเมตร จำนวน 37 จังหวัด และยังคงประกาศเขตโรคระบาด 24 จังหวัด
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์มีเหตุผลความจำเป็นในการประกาศเขตโรคระบาด เพื่อสามารถกำหนดพื้นที่ควบคุมในระยะ 5 กิโลเมตรรอบจุดเกิดโรค ทำให้สามารถระบุชนิดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ต้องควบคุมได้ทุกชนิด ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ตามประกาศเว้นแต่ได้รับอนุญาต และสัตวแพทย์สามารถสั่งดำเนินการกับสัตว์ป่วยหรือสงสัยว่าป่วยหรือสงสัยว่าเป็นพาหะของโรคระบาดได้ทันที หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 02-6534444 ต่อ 4181
*************************************************
ข้อมูล : สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ ข่าว : น.ส.เพ็ญศิริ ดวงอุดม นักวิชาการเผยแพร่ชำนาญการ