วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2561 นายกฤษฎา  บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถบรรทุกหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน  เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย  ณ ศูนย์ราชการกรมปศุสัตว์ ถนนติวานนท์  ตำบลบางกะดี  อำเภอเมืองปทุมธานี  จังหวัดปทุมธานี

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงมีพระเมตตา ไว้วางพระราชหฤทัย และพระราชทานพระราชานุญาตให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ เป็นหน่วยงานในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย โดยการนำหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานไปบรรเทาความเดือดร้อนและบำรุงสุขภาพสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ได้จัดเตรียมหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน เพื่อนำไปช่วยเหลือแก่สัตว์เลี้ยงของเกษตรกร ในพื้นที่ประสบอุทกภัยทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ และตลอดในช่วงฤดูฝน เพื่อความเป็นสิริมงคล และสร้างขวัญกำลังใจแก่เกษตรกร ต่อไป

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า  ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ฝนตกหนักในทั่วทุกภาคของประเทศ ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก รวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการขาดแคลนพืชอาหารสัตว์สำหรับสัตว์เลี้ยง กรมปศุสัตว์ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ การเกิดอุทกภัยอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์อย่างทันท่วงที และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระเมตตา ห่วงใยเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ประสบอุทกภัย พระราชทานหญ้าอาหารสัตว์เพื่อช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร ในพื้นที่ประสบอุทกภัยทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรและลดความเสียหายที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ ได้ให้ความช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งเกิดจากพายุโซนร้อนเซินติญ และพายุโซนร้อนเบบินคา ในระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม – 25 สิงหาคม 2561 โดยสนับสนุนเสบียงสัตว์ ในรูปหญ้าแห้ง ไปแล้วจำนวน 396 ตัน (19,800 ฟ่อน) ประกอบด้วย ในพื้นที่เขต 2 จังหวัดนครนายก จำนวน 4 ตัน พื้นที่เขต 3 จังหวัดยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี จำนวน 25 ตัน พื้นที่เขต 4 จังหวัด หนองคาย บึงกาฬ นครพนม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร จำนวน 277 ตัน พื้นที่เขต 5 จังหวัดน่าน เชียงราย และพะเยา จำนวน 90 ตัน อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ (ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2561) กรมปศุสัตว์ยังมีเสบียงสัตว์ (หญ้าแห้ง) คงเหลือ จำนวน 4,166 ตัน (208,000 ฟ่อน) เตรียมช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ

                 อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ได้มีการเตรียมความพร้อมด้านเสบียงสัตว์ รองรับพื้นที่เสี่ยง รวม 7 จังหวัด ในพื้นที่ เขต 1 และเขต 6 ตอนล่าง ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี และอยุธยา จำนวน 736 ตัน (36,800 ฟ่อน) เป็นเสบียงสัตว์จาก3 หน่วยงานของสำนักพัฒนาอาหารสัตว์ ได้แก่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ชัยนาท จำนวน 294 ตัน ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์นครราชสีมา จำนวน 136 ตัน ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์พิจิตร จำนวน 306 ตัน โดยในวันนี้กรมปศุสัตว์จะดำเนินการปล่อยขบวนรถบรรทุกหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน จำนวน 20 ตัน (1,000ฟ่อน) จากศูนย์ราชการกรมปศุสัตว์ จังหวัดปทุมธานี เพื่อนำไปเก็บสำรองไว้ที่คลังเสบียงสัตว์ประจำตำบลใน 3 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ได้แก่

- จังหวัดอ่างทอง ที่อำเภอวิเศษไชยชาญ จำนวน 100 ฟ่อน และอำเภอแสวงหา จำนวน 100 ฟ่อน โดยมี ประสานงาน คือ น้องอู่ (กลุ่มส่งเสริมฯ) โทร 081-9911347

- จังหวัดอยุธยา ที่อำเภอเสนา ซึ่งเป็นพื้นที่ทุ่งรับน้ำของกรมชลประทาน จำนวน 600 ฟ่อน โดยมีผู้ประสานงาน คือ คุณทำเนียบ (กลุ่มยุทธศาตร์ฯ) โทร 086-7852218 และคุณเสงี่ยม (ปศุสัตว์อำเภอเสนา) โทร 081-9487818

- จังหวัดชัยนาท ที่อำเภอสรรพยา ซึ่งเป็นพื้นที่ทุ่งรับน้ำของกรมชลประทาน จำนวน 200 ฟ่อน โดยมีผู้ประสานงาน คือ คุณกนกพร (กลุ่มยุทธศาสตร์ฯ) โทร 086-9514747

นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังจัดส่งถุงยังชีพสำหรับสัตว์ จำนวน 2,000 ชุด เพื่อเตรียมการรองรับภัยล่วงหน้า ในพื้นที่เลียบฝั่งของเขต 8 ทั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อม ซึ่งจะมีการบูรณาการหน่วยงานต่างๆเพื่อให้การช่วยเหลือในด้านอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติต่อไป

                 "กรมปศุสัตว์ มีความห่วงใยเกษตรกรที่กำลังประสบภัยในพื้นที่ ขอให้เกษตรกรติดตามข่าวสาร เตรียมสถานที่อพยพเมื่อยามมีภัยและเตรียมสำรองอาหาร พร้อมประสานเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด เพื่อขอรับการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที"

*************************************************

ข้อมูล : สำนักพัฒนาอาหารสัตว์                                                                          ข่าว : น.ส.เพ็ญศิริ ดวงอุดม นักวิชาการเผยแพร่ชำนาญการ

           กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์