กรมปศุสัตว์ขอเชิญชิม ชม ช็อป ในงานนิทรรศการแสดงผลงานด้านปศุสัตว์ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ประกอบด้วย ไก่เบตง การแปรรูปผลิตภัณฑ์เขากวางอ่อน การเพาะเลี้ยงหนอนแมลงวันเพื่อทดแทนโปรตีนอาหารสัตว์ โคเนื้อภูพาน ไก่ดำภูพาน กระต่ายดำภูพาน เนยแข็งจากน้ำนมแพะ ไก่เหลืองทองฮ่องไคร้ การเลี้ยงไก่ไข่ระบบปล่อยอิสระ การเลี้ยงไก่ลูกผสมพื้นเมืองเพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นผลงานจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้ง 9 ศูนย์ ในระหว่างวันที่ 5-6 กันยายน 2561 โดยมี นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานเปิดงานในวันพุธที่ 5 กันยายน 2561 เวลา 09.00 น. และเปิดการประชุมสัมมนาเพื่อการพัฒนางานปศุสัตว์ในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ณ  ตึกอำนวยการ ชั้น 1 กรมปศุสัตว์ พญาไท ราชเทวี กรุงเทพฯ

 

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า งานปศุสัตว์ของศูนย์ศึกษาและโครงการพระราชดำริทั้ง 9 แห่ง ได้สร้างคนดี ช่วยชุมชนมีความสุข สร้างความมั่นคงทางอาหารสมดุล ยั่งยืน ดังพระราชประสงค์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และยังไม่หยุดคิดที่จะพัฒนาให้เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้น กรมปศุสัตว์จึงได้จัดสัมมนานำเสนอผลงาน เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ และระดมสมองพัฒนางานให้ดียิ่งๆ ขึ้น ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ตั้งแต่เป็นปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราชฯ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังฯ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่นำความสุขของคน ชุมชน และความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติกับมาอีกครั้ง และเชื่อว่าไม่ว่าโครงการพระราชดำริจะเกิดขึ้นในที่ใดก็จะนำความดี ความสุขไปนี้นั่น กรมปศุสัตว์ภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนองพระราชดำริ

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปฏิบัติงานศูนย์ศึกษาการพัฒนา และโครงการพระราชดำริ เป็นการน้อมนำศาสตร์พระราชาต่างๆ ไปสู่การปฏิบัติและประยุกต์ให้สอดคล้องเหมาะสมกับงานและคน โดยยึดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พวกเราจึงควรได้ศึกษาศาสตร์ต่างๆ ที่พระราชทานไว้ พระจริยวัตรที่ทรงปฏิบัติล้วนแต่เป็นสิ่งที่นำสู่ความเจริญแก่คนและงาน รวมทั้งส่งเสริมขยายผลศาสตร์พระราชาให้กว้างขวางยิ่งขึ้นโดยเฉพาะเกษตรกรที่เราดูแล ยิ่งขณะนี้โลกเข้าสู่ยุค 4.0 เกิดการเปลี่ยนแปลงรอบตัวเราตลอดเวลา เกิดสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่สนองความต้องการของมนุษย์ในขณะที่สิ่งเก่าล้าสมัย ดังนั้น คนที่ปรับตัวทันการเปลี่ยนแปลงจึงจะอยู่ได้อย่างมีความสุข และสร้างประโยชน์ในงานรับผิดชอบได้ดี สิ่งที่อยากเห็นต่อไปคือ งานที่ดีอยู่แล้วก็ทำต่อให้ดียิ่งขึ้น และพัฒนางานใหม่ๆ ที่ช่วยให้เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้นบนพื้นฐานทรัพยากรของท้องถิ่นนั้น ทั้งเป็นอาหารของชุมชน สร้างเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน บูรณาการ สร้างเครือข่าย รูปแบบประชารัฐ ทำแผนงานต่างๆ เป็นแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจนยึดตามแนวพระราชดำริ ทำให้ชุมชน สังคมและประเทศชาติพัฒนาอย่างยั่งยืน สมดังพระราชประสงค์ การปฏิบัติงานสนองพระราชดำริ เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ เหมือนเราได้ทำบุญกุศลไปพร้อมๆ กับการทำงานเพื่อช่วยให้ผู้อื่นมีชีวิตที่ดีขึ้น และพร้อมๆ กับช่วยส่วนรวมคือประเทศชาติพัฒนาขึ้นอีกด้วย

ด้านนายธีรวิทย์ ขาวบุปผา ผู้อำนวยการกองงานพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ กล่าวว่า การจัดประชุมสัมมนาในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 40 คน จากศูนย์ศึกษาการพัฒนา และโครงการพระราชดำริที่ดำเนินงานคล้ายศูนย์ศึกษาการพัฒนา รวม 9 แห่ง การจัดประชุมสัมมนาครั้งนี้ภายใต้ หัวข้อ 9 ศูนย์ “คนดี สังคมสุข สิ่งแวดล้อมยั่งยืน” โดยนำเสนอผลความสำเร็จของงานปศุสัตว์ทั้งงานวิชาการและงานขยายผลที่ออกสู่ประชาชนแล้ว สร้างความอยู่ดีมีสุข แก่คน ชุมชน และในขณะเดียวกันก็สอดคล้องตามภูมิสังคมตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ-พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กำหนดจัด 2 วันระหว่างวันที่ 5-6 กันยายน 2561 นำเสนอผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ ต่างๆ และแสดงผลงานด้านวิชาการเพื่อประชาสัมพันธ์แก่เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์และประชาชนทั่วไป พร้อมกันนี้ได้มาเรียนรู้ระบบราชการ 4.0 กับการปศุสัตว์และการปรับตัวปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพต่อไป และร่วมคิดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และจัดทำแผนและดำเนินงานด้านปศุสัตว์ให้เป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนยิ่งๆ ขึ้นไป

*********************************
ข้อมูล : กองงานพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ                ข่าว : น.ส.เพ็ญศิริ  ดวงอุดม นักวิชาการเผยแพร่ชำนาญการ