นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์  นายวิวัฒน์ ไชยชะอุ่ม  ผอ.กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์  ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ จังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์  ร้อยเอ็ด  และนครราชสีมา  ตรวจราชการ พร้อมมอบสารกำจัดแมลง  เวชภัณฑ์สัตว์ แร่ธาตุ วิตามิน รวมทั้งกำกับดูแลการฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือที่ได้รับผลกระทบ และเตรียมนำเข้าวัคซีนเพิ่มอีก  300,000  โด๊ส  และยังเผยมาตรการเยียวยากรณีสัตว์ตายหรือป่วยตายตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด  ในระหว่างวันที่  11 – 13  มิถุนายน  2564 

นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีการระบาดในหลายจังหวัด  กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ควบคุม  ป้องกันและกำจัดโรคลัมปี สกิน ทั่วประเทศ ทั้งได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิดในหลายพื้นที่ อาทิ ขอนแก่น  มุกดาหาร และสกลนคร  ฯลฯ

นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์  โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  กรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการแก้ไขและควบคุมการระบาดใน 5 มาตรการ คือ 1. ควบคุมการเคลื่อนย้ายโค กระบือ เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค และปฏิบัติตามแนวทางการเคลื่อนย้ายอย่างเคร่งครัด โดยกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการปิดด่านตามแนวชายแดน พร้อมตรวจตราการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์อย่างเข้มงวด และเข้มข้น  2.เฝ้าระวังการเกิดโรคอย่างใกล้ชิด เน้นการรู้โรคให้เร็ว ควบคุมได้ทัน โรคสงบได้อย่างรวดเร็ว  3. ป้องกัน และควบคุมแมลงพาหะนำโรค  ให้เกษตรกรป้องกันโดยใช้สารกำจัดแมลงทั้งบนตัวสัตว์ และบริเวณโดยรอบฟาร์ม ทั้งในพื้นที่ระบาดของโรคและพื้นที่เสี่ยง  ลงพื้นที่พ่นยาฆ่าแมลง และแจกยาฆ่าแมลง รวมถึงให้คำแนะนำการป้องกัน    4. รักษาสัตว์ป่วยตามอาการ เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสไม่มียาที่ใช้รักษาโดยตรง ซึ่งจำเป็นต้องรักษาตามอาการ  โดยแบ่งการรักษาเป็น  4 ระยะ  ระยะที่ 1 สัตว์ป่วยแสดงอาการมีไข้ ให้ดำเนินการให้ยาลดไข้ ระยะที่ 2 เริ่มแสดงอาการตุ่มบนผิวหนัง ให้ยาลดการอักเสบ ระยะที่ 3 ตุ่มบนผิวหนังมีการแตก หลุดลอก ให้ยารักษาแผลที่ผิวหนังร่วมกับยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน  ระยะที่ 4 แผลที่ผิวหนังตกสะเก็ด ใช้ยารักษาแผลภายนอกจนกว่าจะหายดี และ 5. การใช้วัคซีนควบคุมโรค ในส่วนของวัคซีน  LSDV  ป้องกันโรคลัมปี สกิน  กรมปศุสัตว์ได้มีการนำเข้าวัคซีนมาแล้ว  60,000  โด๊ส  และได้กระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ  ที่มีการระบาด  และจะมีการนำเข้าวัคซีนมาเพิ่มอีก  300,000  โด๊ส   ซึ่งในเบื้องต้นได้กระจายการฉีดวัคซีนลงพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก  โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   ทั้งยังได้วางแผนในการฉีดวัคซีนให้เกิดประสิทธิภาพ  เป็นไปตามแผนการป้องกันการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น  เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุด  

ส่วนมาตรการที่กรมปศุสัตว์เตรียมการเยียวยาเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากโรคลัมปี สกิน  ในกรณีที่เป็นการชดเชยกรณีสัตว์ตายหรือป่วยตายนั้น  จะดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562  โดยมีขั้นตอน คือ  1.รวบรวมข้อมูลความเสียหาย  2.รวบรวมข้อมูลเสนอคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ปศุสัตว์อำเภอ) 3. รวมรวมข้อมูลเสนอคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ปศุสัตว์จังหวัด) และ 4. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ ปศุสัตว์จังหวัดหรือกรมปศุสัตว์

ทั้งนี้ จะชดเชยตามจริงแต่ไม่เกินรายละ  2  ตัว  เป็นเงินสดผ่านบัญชีเงินฝากของเกษตรกรตามหลักเกณฑ์  คือ  กรณีโค - กระบือ อายุ  6  เดือน  ชดเชย  โค  6,000 บาท/ตัว  กระบือ  8,000 บาท/ตัว กรณีโค - กระบือ อายุ  6 เดือน -  1 ปี   โค  12,000 บาท/ตัว  กระบือ  14,000 บาท/ตัว  กรณีโค - กระบือ อายุ 1 ปี –  2 ปี  โค  16,000 บาท/ตัว  กระบือ  18,000 บาท/ตัว  และกรณีโค – กระบือ  อายุ  2  ปี  โค  20,000 บาท/ตัว  กระบือ   22,000  บาท/ตัว  หากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคลัมปี สกิน และมีความประสงค์จะขอรับการเยียวยา  ติดต่อสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ใกล้บ้าน หรือศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ทางโทรศัพท์  0 – 2653 – 4444  ต่อ  3315  และ E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

*********************************************

ข้อมูล :  กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์  กรมปศุสัตว์

ข่าว : พิจารณา  สามนจิตติ  กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  สลก.