วันศุกร์ที่ 3 กันยายน 2564 เวลา 16.00 น. นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่จากสำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ สำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์ และด่านกักกันสัตว์สุวรรณภูมิ เป็นตัวแทนรับวัคซีนโรคลัมปี สกิน จำนวน 290,000 โดส ณ ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ

         นายสัตว์แพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโค - กระบือของเกษตรกรล่าสุด พบว่ามีการป่วยสะสม รวม 579,855 ตัว จำนวนสัตว์ตายสะสมจนถึงขณะนี้ รวม 49,633 ตัว ขณะที่จำนวนสัตว์หายป่วยสะสม รวม 425,682 ตัว

          อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวต่อไปว่า จากที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น เพื่อควบคุมโรคลัมปี สกิน ในโค - กระบือ ตามข้อมูลที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ในวงเงินงบประมาณจำนวน 684,218,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมโรคลัมปี สกิน ในโค - กระบือนั้น ซึ่งงบประมาณส่วนหนึ่งจะนำมาใช้จัดซื้อวัคซีน จำนวน 5 ล้านโดส ขณะนี้กรมปศุสัตว์ได้วางแผนบริหารจัดการวัคซีนทั้ง 5 ล้านโดส พร้อมให้ปศุสัตว์จังหวัดทุกจังหวัดจัดทำแผนการฉีดวัคซีนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับวัคซีนที่กรมปศุสัตว์ได้สั่งซื้อจากบริษัท Kemin Biologics ประเทศเบลเยี่ยม จำนวน 5 ล้านโดส ได้เร่งรัดให้มาถึงไทยภายใน 15 วัน โดยในขณะนี้วัคซีนถึงไทยแล้ว จำนวน 290,000 โดส วันที่ 3 กันยายน 2564 จะมาถึงอีก 375,000 โดส ในวันที่ 6 กันยายน 2564 และกำลังยืนยันเที่ยวบิน เพื่อการนำเข้าในเที่ยวบินต่อไป ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโค - กระบือของเกษตรกรล่าสุด พบสัตว์ป่วยใหม่มีแนวโน้มลดลงอย่างมาก และเมื่อดำเนินการฉีดวัคซีนตามเป้าหมายเชื่อมั่นว่า โรคจะสงบได้ภายใน 3 เดือน อย่างแน่นอน

          ในส่วนของการเยียวยา กรมปศุสัตว์ยังได้มีการปรับเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเกือบทุกชนิดสัตว์ และมีอัตราเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยคาดว่าเกษตรกรผู้ประสบภัยจากโรคลัมปี สกินจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการช่วยเหลือตามอัตราใหม่ โดยหลักเกณฑ์ ระบุว่าผู้ประสบภัยพิบัติในกรณีที่เป็นการจัดหาอาหารสัตว์ วัคซีนและเวชภัณฑ์รักษาสัตว์ เพื่อการฟื้นฟู สุขภาพสัตว์เลี้ยงและการจัดหาอาหารสัตว์ตามราคาท้องตลาด หรือตามความจำเป็นเหมาะสม การให้ความช่วยเหลือกรณีแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรตายหรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟูหรือเยียวยาให้กลับสู่สภาพเดิมได้ ให้ดำเนินการช่วยเหลือเป็นเงินในอัตราไร่ละ 1,980 บาท แต่ไม่เกินรายละ 30 ไร่ ส่วนการให้การช่วยเหลือกรณีสัตว์ตายหรือสูญหายให้ช่วยเหลือตามจำนวนที่เสียหายจริงแต่ไม่เกินเกณฑ์การช่วยเหลือโดยดำเนินการช่วยเหลือ อาทิ โค ได้ไม่เกินรายละ 5 ตัว อายุน้อยกว่า 6 เดือน 13,000 บาท อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี 22,000 บาท อายุมากกว่า 1 ปีถึง 2 ปี 29,000 บาท อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 35,000 บาท กระบือ ไม่เกินรายละ 5 ตัว อายุน้อยกว่า 6 เดือน 15,000 บาท อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี 24,000 บาท อายุมากกว่า 1 ปีถึง 2 ปี 32,000 บาท อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 39,000 บาท สุกร รายละไม่เกิน 10 ตัว อายุ 1 ถึง 30 วัน 1,500 บาท อายุมากกว่า 30 บาทขึ้นไป 3,000 บาท แพะ แกะ ไม่เกินรายละ 10 ตัว อายุ 1-30 วัน 1,500 บาท อายุมากกว่า 30 วัน 3,000 บาท ไก่พื้นเมือง ไก่งวง ไม่เกินรายละ 300 ตัว อายุ 1-21 วัน 30 บาท อายุ 21 วันขึ้นไป 80 บาท ทั้งนี้ ยังมี ไก่ไข่ ไก่เนื้อ เป็ดไข่ เป็ดเนื้อ นกกระทา นกกระจอกเทศ และห่าน ตามอัตราที่กำหนด

          กรมปศุสัตว์ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรเจ้าของโค-กระบือ จึงได้เตรียมการเยียวยาชดเชยเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากโรคลัมปี สกิน หากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์รายใดได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคลัมปี- สกิน และมีความประสงค์จะขอรับการเยียวยา ขอให้ติดต่อสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ใกล้บ้าน หรือศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ทางโทรศัพท์ 0-2653-4444 ต่อ 3315 และ e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

ข้อมูล : สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ / กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์

ข่าว : สลิลรัตน์ ชูโชติ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม