วันที่ 26 ธันวาคม 2561 เวลา 11.00 น.
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นายวรพัฒน์ เชาว์วิศิษฐ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมศุลกากร และผู้แทนจากภาคมหาวิทยาลัย (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมหิดล) ร่วมแถลงข่าวบูรณาการหน่วยงานร่วมต้านโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) เข้าประเทศไทย พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์จีระศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ และผู้ที่เกี่ยวข้องของกรมปศุสัตว์ ได้แก่ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ ผู้อำนวยการกองสารวัตรและกักกัน และผู้อำนวยการกองควบคุมอาหารและยาสัตว์
กรมปศุสัตว์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมศุลกากร ภาคมหาวิทยาลัย และภาคเอกชนผนึกกำลังเข้มงวดการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเข้าประเทศไทย ย้ำไม่ติดคนและสัตว์ชนิดอื่น แต่ส่งผลกระทบก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรอย่างมาก
เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever) มากขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งอยู่ในภูมิภาคเอเชีย กรมปศุสัตว์จึงได้มีการเข้มงวดและป้องกันการลักลอบนำเข้าสุกร ซากสุกรและผลิตภัณฑ์สุกรที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด
ขณะนี้ใกล้จะถึงช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสถานการณ์การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ขยายวงกว้าง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเข้ามาสร้างความเสียหายแก่ประเทศไทย กรมปศุสัตว์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมศุลกากร และสถาบันการศึกษาจึงได้บูรณาการการตรวจสอบและจับกุมการลักลอบนำเข้าสุกร ซากสุกรและผลิตภัณฑ์สุกรให้มีประสิทธิภาพ โดยได้ข้อสรุปร่วมกัน ดังนี้
1. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้กำชับโดยประกาศให้เจ้าหน้าที่ที่ด่านทั้ง 50 ด่าน เข้มงวดตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของสุกรที่มาจากประเทศที่พบการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรทั้ง 15 ประเทศ
2. ด่านศุลกากรประจำสนามบินนานาชาติและช่องผ่านแดนต่างๆ ได้เข้มงวดตรวจสอบสัมภาระของนักท่องเที่ยวโดยเครื่องเอ็กซ์เรย์
โรค ASF ติดเฉพาะในสุกร ไม่เป็นโรคติดต่อในคนและสัตว์ชนิดอื่น และยังไม่มีการเกิดในไทย จึงขอความร่วมมือเกษตรกรให้ยกระดับการเลี้ยงสุกรให้มีระบบการป้องกันโรคที่ดีตามมาตรฐาน และหากเป็นรายย่อยให้ใช้มาตรฐานการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบแหล่งที่มาของสุกรก่อนเข้าฟาร์ม ร่วมกับการจัดการด้านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ ซึ่งจะช่วยป้องกันการนำโรคเข้าสู่ฟาร์มได้ และงดเว้นการนำอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส อย่างน้อย 30 นาที มาเลี้ยงสุกร นอกจากนี้ให้สังเกตอาการสุกรอย่างใกล้ชิด หากพบสุกรแสดงอาการป่วยและมีจำนวนสุกรตายผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที หรือ call center 063-225-6888 หรือที่แอปพลิเคชัน DLD 4.0 “แจ้งการเกิดโรคระบาด” เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เร่งดำเนินการให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
ณ ห้องแถลงข่าว ตึกอำนวยการ กรมปศุสัตว์
{gallery}news_dld/2561/2561_12_26/{/gallery}
ภาพ กิตติพรรณ จินดามัง ข่าว ทีมงานอธิบดี / กลุ่มเผยแพร่ / สลก